“แพทองธาร” ประกาศไทยพร้อมเป็นผู้นำซอฟต์พาวเวอร์ของโลก

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 28 มิ.ย.- “แพทองธาร” ปาฐกถาพิเศษนโยบายการขับเคลื่อนและพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย ประกาศปักหมุดหมายสำคัญ ประเทศพร้อมเป็นหนึ่งในผู้นำซอฟต์พาวเวอร์ของโลก เชื่อนโยบายนี้เป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายการขับเคลื่อนและพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย” ว่า การจัดงาน THACCA SPLASH : Soft Power Forum 2024 นี้ เป็นจุดเริ่มสำคัญของนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ซึ่งเราจะได้สร้างแรงบันดาลใจ สร้างความฝัน และโอกาสที่จะปลดปล่อยพลังของคนไทยให้กระจายไปทั่วโลก ซึ่งในงานตลอดทั้ง 3 วันนี้ จะได้พบกับการแสดงวิสัยทัศน์ การแบ่งปันเรื่องราวจากตัวจริงของแต่ละภาคอุตสาหกรรมทั้งในไทยและต่างประเทศ นิทรรศการนโยบายที่จะบอกเล่าเรื่องราวการทำงาน การทำเวิร์กช็อปมาให้เรียนรู้ และที่สำคัญที่สุดคือจะเป็นครั้งแรกที่จะเปิดให้มีการลงทะเบียน “โครงการหนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ (OFOS)” เพื่อยกระดับศักยภาพของตัวเองภายในงานนี้

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า นโยบายซอฟต์พาวเวอร์นี้เพิ่งเริ่มต้นมาแค่ 9 เดือน แต่ภารกิจนี้ไม่ใช่เริ่มวันนี้ แต่เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย โดยที่เราเชื่อเสมอว่า ภูมิปัญญา วัฒนธรรมไทย และศักยภาพคนไทยมีมูลค่าสูง สามารถดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก ซึ่งในวันนั้นนโยบายที่เป็นรูปธรรมคือ OTOP หรือหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ที่สนับสนุนพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานรากของประชาชน 7,000 ตำบลทั่วประเทศมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงระดับประเทศและสร้างมูลค่าต่อเนื่องมาจากปี 2545 จนถึงวันนี้ไม่น้อยกว่า 2 ล้านล้านบาท


นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า แม้จะผ่านมาแล้ว 20 ปี นโยบายนั้นสำเร็จแต่ยังไม่ถึงเป้าหมายเพราะยังขาดจิ๊กซอว์ที่หายไปจากภาพใหญ่ที่จะทำให้ซอฟต์พาวเวอร์นั้นสมบูรณ์ ครั้งนี้เราจึงคิดใหญ่ ตั้งเป้าหมายใหญ่ ตั้งเป้าให้ชัดเจนว่า ซอฟต์พาวเวอร์ จะต้องสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาทยกระดับชีวิตคนไทยทุกครอบครัว ให้มีรายได้ไม่น้อยกว่า 200,000 บาทต่อปี
สร้างแรงงานทักษะสร้างสรรค์ไม่น้อยกว่า 20 ล้านตำแหน่ง จะต้องมีร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ไม่น้อยกว่า 100,000 แห่ง ยิมมวยไทยทั่วโลกจะต้องเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 20,000 แห่ง หนังสือจากคนไทยจะต้องได้รับการแปลในหลายภาษาอย่างเป็นระบบ หมอลำ TPOP นักร้องลูกทุ่ง จะได้มีพื้นที่ในเวทีคอนเสิร์ตระดับนานาชาติ มีแฟนเพลงทั่วโลก เทศกาลของประเทศไทยจะต้องได้รับ IP Festival

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า โจทย์ของการทำงานซอฟต์พาวเวอร์ในเวลานี้คือ เราจะไปถึงเป้าหมายทั้งหมดนี้ได้อย่างไร เราจะสร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้แข็งแรงจากวันนี้ไปถึงอนาคตได้อย่างไร คำตอบก็คือเราจะต้องสร้าง Ecosystem ให้ยั่งยืนด้วยการเติม 3 ยุทธศาสตร์ที่สำคัญได้แก่

  1. นโยบายการพัฒนาศักยภาพคน นโยบาย OFOS หนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ คือ การ reskill Up skill ครั้งใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศ เราจะยกระดับทักษะของคนไทย ยกระดับรายได้ เติมแรงงานที่เก่งเข้ามาในระบบเพื่อทำให้เกิดการพัฒนา
  2. นโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรม คือการตั้ง THACCA Thailand Creative Culture Agency หน่วยงานกลางที่จะเป็นผู้กำหนดนโยบาย รวบรวมงบประมาณไม่ให้กระจัดกระจาย แก้ไขปัญหากฎหมายที่ติดขัดในอุตสาหกรรม ความพิเศษของ THACCA คือการสร้างกลไก ให้ภาคเอกชนในแต่ละอุตสาหกรรมเป็นผู้นำภาครัฐเป็นครั้งแรก
  3. นโยบายต่างประเทศ หลักสำคัญคือ เราจะส่งออกสิ่งที่แต่ละประเทศต้องการ เราได้ทำงานร่วมกับคณะทูตไทยทั่วโลกและทูตพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มอบนโยบายนี้เพื่อจับคู่สิ่งที่เรามีกับสิ่งที่ในแต่ละประเทศต้องการ เพื่อขยายโอกาสให้คนไทย

“ซอฟต์พาวเวอร์ที่เราทำในวันนี้ อาจผลิดอกออกผลอย่างเต็มที่ในอีก 10 ปีข้างหน้า มันไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ต้องทำด้วยกลไกใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นจริงเท่านั้น แต่วันนี้ รัฐบาลนี้เริ่มทำแล้ว และทำอย่างจริงจังมากที่สุดเท่าที่เคยมีในประวัติศาสตร์ และนโยบายนี้จะเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทยในอีกหลายสิบปีข้างหน้า” รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าว.-316 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

น้ำค้างแข็งดอยอินทนนท์

กิ่วแม่ปาน 3 องศาฯ เกิดน้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า

ดอยอินทนนท์หนาวมาก อุณหภูมิลดลงอีก เช้านี้จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน 3 องศาฯ เกิดน้ำค้างแข็งบนยอดหญ้าขาวโพลนไปทั่ว นักท่องเที่ยวสุดตื่นเต้น

เลี่ยงตอบกระทู้

นายกฯ เลี่ยงตอบกระทู้ในสภาฯ งงยุบสภา บอกไม่ได้ยินใครพูด

นายกฯ เลี่ยงตอบกระทู้ในสภาฯ บอก “เมอร์รี่คริสต์มาส” ไร้สัญญาณยุบสภา ลั่นยังไม่ได้ยินใครพูด ด้าน “มนพร” ยัน นายกฯ ไม่ทิ้งสภา มอบ รมต.เกี่ยวข้องแจง

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

สีสันคริสต์มาสอีฟ ย่านราชประสงค์

บรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสอีฟ ย่านราชประสงค์ ท่ามกลางอากาศสบายๆ ยามเย็น อบอวลด้วยรอยยิ้มและความสุข ททท. มั่นใจตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2567 จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 จะมีนักท่องเที่ยวร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ทั่วไทย มากกว่า 1.5 ล้านคน สร้างเม็ดเงินกว่า 62,000 ล้านบาท