“บิ๊กเต่า” เผยเตรียมแจ้งเอาผิดลูกเรือ 18 คน นำเรือของกลางหลบหนี

ชลบุรี 13 มิ.ย.-“บิ๊กเต่า” เผยเตรียมแจ้งความเอาผิดลูกเรือ 18 คน นำเรือของกลางคดีน้ำมันเถื่อน 3 ลำ หลบหนีออกนอกประเทศ เร่งประสานเพื่อนบ้านติดตามเรือคืน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนว่าเจ้าหน้าที่บกพร่องหรือไม่


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงกรณีเรือของกลาง 3 ลำ หายจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ว่า วันนี้ตนได้ลงพื้นที่ไปที่สัตหีบด้วยตัวเอง และจะต้องมีการตรวจสอบ 3 ข้อ คือ 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ และมีการร่วมกับใครกระทำความผิดหรือไม่ โดยจะมีความผิดตาม หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะมีความผิดตามมาตรา 147 เจ้าหน้าที่เบียดบังทรัพย์สินเป็นของตนเองหรือของผู้อื่นโดยทุจริต และ ม.157 เจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้า 2.จะเดินทางไปติดตามสถานการณ์การติดตามเรือว่ามีการดำเนินการไปถึงไหนแล้ว 3.ในการดำเนินคดีลูกเรือทั้งหมดจะมีการแจ้งความที่ สภ.สัตหีบ โดยจะมีการโอนคดีไปยังกองบังคับการปราบปราม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลว่ามีใครที่เกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งตามรายงานเบื้องต้นคาดว่าจะมีถึง 18 คน

ทั้งนี้ในการค้นหาเรือ ชุดค้นหากำลังดำเนินการอยู่ทั้งทางน้ำและทางอากาศ อีกทั้งได้มีการประสานกับตำรวจกัมพูชาในการดำเนินการติดตามเรือ โดยทาง พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยจะมีการสอบและดำเนินการตามข้อเท็จจริงให้ชัดเจนโดยเร็ว


ด้าน พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ เปิดเผยว่า กรอบระยะในการตรวจสอบมีเวลา 60 วัน แต่คดีนี้จะต้องมีการเร่งรัดให้เร็วที่สุด โดยจะเหลือเวลาสอบเพียง 30 วัน ข้อมูลบางส่วนต้องประสานกับทางประเทศเพื่อนบ้านในการติดตามเรือที่หายไป ซึ่งตอนนี้เชื่อว่าไม่ได้อยู่ในน่านน้ำไทยแล้ว มีความเป็นไปได้ว่าจะอยู่ในเขตของประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่สามารถระบุได้เพราะติดกับน่านน้ำกัมพูชา และเวียดนาม

ในวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่เฝ้าดูแลเรือตลอดเวลา ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใสทางตำรวจน้ำเป็นกรรมการในการสอบวินัย ส่วนคดีอาญาหรือคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องวันนี้ทาง พล.ต.อ.จรูญเกียรติ จะลงลงพื่นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง และทาง พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการไปยังจเรตำรวจฯ ให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ไปเกี่ยวข้อง ก็ไม่ปล่อยไว้

ทั้งนี้ คนที่นำเรือของกลางหนี ทราบตัวอยู่แล้ว เพราะต้องมีการลงเรือเฝ้าเรือของกลาง และเรือต้องมีการวิดน้ำตลอด เพราะไม่งั้นเรือจะจม ซึ่งจะต้องมีคนเฝ้าเรือ 3-4 คน ต่อเรือ 1 ลำ และคนเฝ้าเรือเองเป็นผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ศุลกากร และ พ.ร.บ.สรรพสามิต ที่มีการประกันตัวออกมา ตอนเกิดเหตุ ต้องมีการนำเรือออกจากฝั่ง เพราะคลื่นแรง หากเรือเทียบฝั่งจะเกิดการกระแทกและเป็นอันตรายได้ และแทนที่คลื่นลมสงบจะนำเรือกลับเข้าฝั่ง แต่กลับเอาเรือหนีไปแทน ทั้งนี้ได้มีการรวบรวมข้อมูลว่ามีใครบ้างที่เฝ้าเรือ โดยจะมีการแจ้งความเอาผิดกับบุคคลเหล่านั้น อยู่ระหว่างการแจ้งความที่ สภ.สัตหีบ ในข้อหาการเอาทรัพย์สินซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจยึดไปและทำให้สูญหายหรือเสียหาย ซึ่งมีการกระทำผิดตามมาตรา 142


อย่างไรก็ตาม ในการค้นหาเมื่อวานนี้มีการใช้กำลังจากอากาศยานกองบินตำรวจ ค้นหาแต่ก็ยังไม่พบ ซึ่งวันนี้ก็มีการค้นหาทางเรือ แต่ก็ยังไม่พบเช่นกัน.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรง โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้าในภาคเหนือและภาคอีสาน ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย