ศาลไม่ให้ประกัน “แซน” ชี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ-โทษสูง

ปทุมธานี 7 มิ.ย. – ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาฆ่าตัดมือแฟนสาว วัย 18 ปี ชี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ ถูกคุมตัวเข้าเรือนจำปทุมธานี ด้านผลชันสูตร พบหลอดลมฉีกขาดจากของมีคม


จากกรณีนายธนากรณ์ หรือ “แซน” อายุ 18 ปี ฆ่าทุบหัว ปาดคอตัดมือทั้ง 2 ข้างของ น.ส.วรัญญา นักศึกษาสาว อายุ 18 ปี ซึ่งแฟนสาว ก่อนทิ้งศพเปลือยในกองขยะริมถนน ใต้ทางด่วน ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี

วันนี้ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลจังหวัดปทุมธานี ฝากขัง โดยพนักงานสอบสวน ยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เกรงว่าหากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวอาจจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรืออาจจะกระทำอัตวินิบาตกรรม ฆ่าตัวตาย ได้ จึงสมควรที่จะได้รับการฝากขังเพื่ออยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด


หลังการนำตัวไปฝากขัง ที่ศาลจังหวัดปทุมธานี เบื้องต้น ญาติผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง ลักษณะการก่อเหตุเป็นคดีสะเทือนขวัญ ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ในชั้นนี้จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ยกคำร้องและให้ออกหมายขังผู้ต้องหาส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำปทุมธานีต่อไป

ส่วนที่ สภ.ปากคลองรังสิต นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความพร้อม ด้วยแม่และพี่สาวผู้เสียชีวิต เข้าพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อสอบถามเรื่องของคดีที่ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังกังวลอยู่ ทนายไพศาล กล่าวขอบคุณ ตำรวจที่ช่วยดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการค้นหามือทั้งสองข้างของผู้เสียชีวิต แต่ยังมีหลายประเด็นที่ต้องสอบถามจากตำรวจ โดยเฉพาะพยานหลักฐาน ที่อยู่ในโทรศัพท์ว่าตรวจสอบถึงไหนแล้ว ในส่วนผู้ต้องหาเชื่อว่า มุกแกล้งบ้า ไม่สามารถใช้ได้ การป่วยทางจิตดูเหมือนเป็นฉากเป็นตอน ฝากบอกคนไทยเลยว่าถ้าเกิดคนที่อ้างว่าป่วยจิตหรือกินยา ถ้าป่วยจริงต้องกินขี้ได้ คือกฎหมายข้อนี้การกระทำโดยขาดจิตสำนึกผิดชอบชั่วดีจิตจิตฟันเฟืองซึ่งในขณะที่ทำมีจิตอยู่บ้าง ทั้งนี้ หากผลการชันสูตร พบว่ามีการฆ่าโดยทรมานจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ตามมาตรา 289 (5) และนายธนากรณ์ ยอมเปิดปากสารภาพแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ขณะผู้ที่ฉวยผลประโยชน์ในคดีนี้ แอบอ้างเปิดรับบริจาค จะลงบันทึกประจำวัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากนั้น ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พร้อมด้วยแม่ และพี่สาวของผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อติดต่อขอรับศพลูกสาว เพื่อนำกลับไปเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.อุตรดิตถ์ แต่เบื้องต้นติดปัญหา ที่ชื่อของผู้เสียชีวิต ตอนส่งศพไปชันสูตร เป็นศพไม่มีชื่อเพราะในตัวไม่พบเอกสารใดๆ ทำให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ต้องพามารดาไปที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อดำเนินการเรื่องเอกสารเนื่องจากบัตรประชาชนของผู้ตายยังอยู่ภายในบ้านของผู้ก่อเหตุ


ขณะเดียวกัน พ่อของผู้ต้องหาได้เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อนำทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต มามอบคืนให้กับญาติ มีแมว 1 ตัว เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว และบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต โดยพ่อของแซน ได้ขอคุยกับบุลคลในครอบครัวของผู้ตายเป็นการส่วนตัวในรถยนต์ ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 10 นาที โดยญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับครอบครัวของผู้ก่อเหตุ บอกว่าเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน และเสียใจกันเรื่องที่เกิดขึ้น เบื้องต้นยังไม่ได้มีโอกาสสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะฝั่งครอบครัวผู้ก่อเหตุ พูดอย่างเดียวซึ่งเขาบอกว่า ไม่คิดว่าจะทะเลาะกันเมื่อวันสองวันยังกินข้าวด้วยกันอยู่เลย ตอนนี้ครอบครัวยังติดใจเรื่องคดีที่ไม่คืบหน้า และอยากได้ความยุติธรรมกับน้องให้ถึงที่สุดเพราะมันโหดร้ายจนเกินไป ไม่ให้อภัย และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ในส่วนที่ครอบครัวผู้ก่อเหตุขอโทษเรา เรายังไม่รับคำขอโทษ

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. หลังจากครอบครัว ไปทำเรื่องเอกสารเรื่องชื่อ เพื่อมาขอรับศพลูกสาว เสร็จสิ้นก็เดินทางกลับมาถึง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมอีกครั้ง เพื่อขอรับศพลูกสาว สำหรับผลชันสูตรศพของผู้เสียชีวิต พบว่า หลอดลมฉีกขาดจากของมีคม เนื่องจากมีบาดแผลฉีดขาดบริเวณลำคอ รวมทั้งมีการสำลักเลือดในปอดด้วย จึงสันนิษฐานว่าก่อนเสียชีวิต โดยทำการทรมาน ซึ่งกรณีที่มีการสำลักเลือดในปอด ตอนนั้นผู้เสียชีวิต อาจยังไม่เสียชีวิต ทำให้สำลักเลือด และเลือดลงไปในปอด

จากนั้น ครอบครัวได้นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาขึ้นรถกู้ภัย พร้อมด้วยพระสงฆ์ 1 รูป มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ โดยเมื่อมาถึงจุดทิ้งศพ บริเวณใต้ทางด่วน พระสงฆ์ 1 รูปประกอบพิธี แม่นำก๋วยเตี๋ยว น้ำอัดลม น้ำเปล่า มาจุดธูปเรียกลูกกินข้าวก่อนกลับบ้าน จุดธูป ร่ำไห้เรียกชื่อลูกสาว ก่อนจะบอกว่า “แม่มารับแล้วนะลูก น้องหิวไหมลูก มากินข้าวนะ แม่มารับแล้วนะลูก กลับบ้านเรานะลูก เดี๋ยวแม่พาไปวัดบ้านเรา ตามแม่มานะลูก แม่เอาโคบี้ แมวรัก กลับเลี้ยงให้แล้วนะลูก” ก่อนจะกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่จังหวัดอุตรดิตถ์.-สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]

นักท่องเที่ยวคึกคัก “ตาเมือนธม” ปรับลดกำลังฝั่งละ 3 นาย

สุรินทร์ 16 ก.ค. – แม้เพิ่งผ่านเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จนนักท่องเที่ยวต้องวิ่งหลบเข้าบังเกอร์เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ แต่วันนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชายังคงเข้าไปเที่ยวคึกคัก ล่าสุดมีการปรับลดกำลังบนตัวปราสาทฝั่งละ 3 นาย ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ คึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากมาให้กำลังใจทหารที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างแข็งขัน หลังวานนี้ (15 ก.ค.) เกิดเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม ล่าสุดมีการปรับลดกำลังของแต่ละฝ่ายบนตัวปราสาท ฝั่งละ 3 นาย บรรยากาศปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้าก่อนเวลาเปิด ทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ รถตู้โดยสาร โดยรถทัวร์ 2 คัน ผู้โดยสาร 150 คน มาจากเทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นำสิ่งของมาบริจาคบำรุงขวัญทหาร ตำรวจแนวหน้า ขณะที่กลุ่มคนสวมเสื้อสกรีนข้อความ “รักเธอประเทศไทย” เป็นกลุ่มคุณเจน ญาณปรีดส์ ราว 40 คน เดินทางด้วยรถตู้ 4 คัน มาจากกรุงเทพฯ นอกจากมอบสิ่งของบริจาคเพื่อทหารทุกนายแล้ว ยังมอบเงินพิเศษให้ทหาร 2 […]

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]