กทม. 6 มิ.ย.-“เบนซ์-มิค” ควงทนายตั้งโต๊ะชี้แจงกรณีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ถูก อย.ตรวจพบสารไซบูทรามีน ยืนยันผลิตภัณฑ์ที่ อย.สุ่มตรวจนั้นเป็นสินค้าปลอมที่กระจายในท้องตลาด ทำให้สังคมเข้าใจผิด
“เบนซ์ พรชิตา” และ “มิค บรมวุฒิ” และนายนิติธร แก้วโต หรือ “ทนายเจมส์“ แถลงชี้แจงกรณีที่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ ถูกสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจพบสารไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดย “เบนซ์” และ “มิค” ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ที่ทาง อย.นำไปตรวจสอบนั้นเป็นของปลอม จนทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด และเกิดความเสียหายต่อตัวผลิตภัณฑ์และชื่อเสียงของตนเอง จึงขอชี้แจงกรณีที่มีข่าวอ้างอิงจากประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ที่ตรวจพบสารอันตรายในผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนยี่ห้อนั้นว่า มีของปลอมกระจายจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ซึ่งของปลอมจะราคาถูกกว่าของแท้ เพราะของปลอมใช้สารไซบูทรามีนเป็นส่วนผสม ทำให้ต้นทุนถูกกว่า แต่ได้ผลใกล้เคียงกัน
สำหรับผลิตภัณฑ์นี้จำหน่ายมา 7 ปีแล้ว ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจาก อย. มีพรีเซนเตอร์มาแล้ว 2 คน ซึ่ง “เบนซ์ พรชิตา” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนที่ 3 โดยผลิตภัณฑ์ที่ “เบนซ์ พรชิตา” เป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น เริ่มผลิตตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ผลิตไปประมาณ 10,000 กว่ากล่อง ส่งให้ตัวแทนจำหน่าย ซึ่งก็ได้ขายหมดไปแล้ว สินค้าที่หลงเหลืออยู่ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเป็นของปลอมทั้งหมด จนกระทั่งทางบริษัทพบว่ามีของปลอมขายอยู่ในท้องตลาด จนส่งผลให้ยอดขายลดลง ทั้งที่ลูกค้ามีความต้องการสูงมาก กลายเป็นว่าลูกค้ากลับซื้อของปลอมไปบริโภค จึงแจ้งความกับตำรวจ 2 ครั้ง ในเดือนเมษายน และพฤษภาคมที่ผ่านมา
จากนั้นทางบริษัทฯ จึงเรียกผลิตภัณฑ์คืนจากตัวแทนทั้งหมด แล้วเปลี่ยนแพ็กเกจให้บนหน้ากล่องผลิตภัณฑ์นั้นมีลายเซ็นของ “เบนซ์ พรชิตา” เพื่อให้เกิดความแตกต่างว่านี่คือผลิตภัณฑ์ของแท้ โดยเริ่มเปลี่ยนแพ็กเกจใหม่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความแตกต่างกับผลิตภัณฑ์ปลอม อย่างไรก็ตาม ได้ขอบคุณทาง อย.ที่ตรวจพบว่ามีการผสมสารไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์ของปลอม และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ไปแจ้งความร้องทุกข์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทำให้ประชาชนได้รู้ว่ามีผลิตภัณฑ์ปลอมแฝงอยู่ในตลาด จะซื้อมาบริโภคต้องระมัดระวัง และควรตรวจสอบข้อมูลก่อนซื้อผลิตภัณฑ์
ส่วนกรณีที่ทางพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ได้ออกหมายเรียก “เบนซ์ พรชิตา” และ “มิค บรมวุฒิ” มาให้ปากคำในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ ยังไม่ทราบเรื่องและยังไม่ได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวน แต่ยินดีให้ความร่วมมือ หากพนักงานสอบสวนจะเรียกเข้าไปให้ปากคำ ส่วนจะมีการดำเนินคดีกับบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือไม่ ตนเองไม่ทราบ เพราะเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ทางบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ได้แต่งตั้งทนายความขึ้นมาให้คำปรึกษาและช่วยเหลือทางคดีด้วย.-414-สำนักข่าวไทย