กรุงเทพฯ 25 พ.ค. – รองอธิบดีกรมป่าไม้ ยืนยันที่ดินหาดนุ้ยซึ่งยังคงมีประเด็นพิพาทของผู้ครอบครอง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิดอย่างแน่นอน โดยทำหนังสือถึงพนักงานสอบสวนเพื่อขอความเห็นชอบในการใช้คำสั่งทางปกครอง ให้ผู้ครอบครองรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกทั้งหมด
นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้กล่าวถึงที่ดินบริเวณหาดนุ้ย ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 18 ไร่ 2 งาน 78 ตารางวาว่า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด ผู้ครอบครองเข้ามาก่อสร้างเป็นรีสอร์ตและร้านอาหารอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนที่มีข่าวว่า เกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินแปลงนี้ ทราบเบื้องต้นว่า เป็นข้อพิพาทภายในครอบครัวของผู้ครอบครอง
การดำเนินการของกรมป่าไม้ที่ผ่านมานั้น ศูนย์ป่าไม้ภูเก็ตแจ้งความที่สภ.กะรนเพื่อดำเนินคดีอาญาแก่ผู้ยึดถือครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2567 แล้ว โดยพร้อมใช้คำสั่งทางปกครองให้ผู้ครอบครองรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกภายใน 30 วันซึ่งเป็นไปตามมาตรา 25 ของ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 แต่กรมป่าไม้จะดำเนินการได้ต่อเมื่อพนักงานสอบสวนเห็นชอบ ล่าสุดได้ทำหนังสือขอความเห็นชอบของพนักงานสอบสวนไปอีกครั้งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
ทั้งนี้ตามมาตรา 25 ของพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ผู้ครอบครองจะต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกเอง หากผู้ครอบครองไม่ยอมรื้อถอนเอง เจ้าหน้าที่จะรื้อถอน โดยคิดค่าใช้จ่ายต่างๆ แก่ผู้ที่ครอบครองในพื้นที่นั้น
สำหรับพื้นที่บริเวณหาดนุ้ยซึ่งมีผู้ครอบครองโดยมิชอบตามกฎหมาย เป็นพื้นที่ที่เคยถูกตรวจยึดไว้มาแล้ว โดยแปลงหนึ่งตรวจยึดในปี 2561 อีกแปลงหนึ่งตรวจยึดในปี 2562 มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามมาตรา 25 ของพ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ในปี 2563 เรียบร้อยแล้ว ต่อมามีผู้เข้ามาบุกรุกใหม่ซึ่งทราบว่า เป็นกลุ่มบุคคลเดิม
ส่วนที่ผู้ครอบครองอ้างว่า เป็นที่ ส.ป.ก. ตรวจสอบแล้วว่า ไม่ได้อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน แต่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยผู้ครอบครองล้อมรั้วแสดงความเป็นเจ้าของ ปิดกั้นไม่ให้คนเข้า และเก็บเงินค่าผ่านทางลงสู่หาดนุ้ย. 512 – สำนักข่าวไทย