กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – ผอ.เขตหนองแขม เผยเหตุถังบรรจุสารเคมีระเบิดในบ้านพัก เสียชีวิต 1 ราย สั่งเร่งตรวจสอบใบขออนุญาตเจ้าของกิจการ พร้อมกำหนดเป็นพื้นที่อันตราย ประสานเจ้าของขนย้ายถังสารเคมีออกภายในวันนี้
เมื่อเวลา 11.22 น. วันนี้ (23 พ.ค.) เกิดเหตุระเบิดขึ้น ในบ้านพักหลังหนึ่ง ใน ซ.เพชรเกษม 77/8 เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ด้านข้างประตูบ้าน ติดถนนพบเศษเหล็ก และเศษถังสำหรับบรรจุออกซิเจนกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง และยังพบ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายบัณฑิต อายุ 30 ปี อยู่ในสภาพลำตัวขาดครึ่งท่อน อวัยวะส่วนขาและแขน กระเด็นออกไปไกลจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 ถึง 30 เมตร ส่วนถังที่ระเบิดกระเด็นไปไกล 100 เมตร ถูกบ้านเรือนของประชาชนใกล้เคียง เสียหาย 3-4 หลังคาเรือน และบางส่วนแตกกระจัดกระจายอยู่บริเวณบ้านพัก จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายกำลังยกถังออกซิเจนขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปไว้ที่โรงงานย่านสมุทรสาคร แต่ในระหว่างการขนย้ายถัง เกิดการระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยแรงอัดร่างผู้ตาย จนกระเด็นออกมานอกบ้านก่อนจะเสียชีวิต
ขณะที่นายชัยวัฒน์ เจ้าของกิจการและเจ้าของ บ้านหลังเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า ส่วนตัวประกอบกิจการจัดเก็บถังออกซิเจนจากโรงงานอุตสาหกรรม โดยถังออกซิเจน มาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อเตรียมนำไปเติมออกซิเจนจากโรงงาน ก่อนนำถังเหล่านี้ ส่งให้โรงงานอุตสาหกรรมอีกทอดหนึ่ง ไม่ได้ประกอบ หรือมีการต่อเติมถังออกซิเจนแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการเกิดระเบิดขึ้น เป็นช่วงเวลาที่คนงาน กำลังขนถังออกซิเจนเปล่าขึ้นรถกระบะ เพื่อนำไปเติมออกซิเจน แต่ไม่ทราบว่าเกิดระเบิดได้อย่างไร ซึ่งโดยปกติ เป็นไปได้ยาก สันนิษฐานว่าถังที่ระเบิดอาจมีออกซิเจนหลงเหลืออยู่ภายใน แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอการตรวจสอบจาก ตำรวจ สน.หนองแขม และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาสาเหตุการระเบิดอีกครั้ง
ด้าน แฟนสาวผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เนื่องจากเสียใจและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเจ้าหน้าที่ไปดูร่างแฟนหนุ่ม โดยเมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามข้อมูล ว่า เมื่อเช้าได้คุยกับผู้ตายหรือไม่ เธอบอกว่าไม่ได้คุยกัน แฟนหนุ่มทำงานนี้มานาน เป็น 10 ปี และเธอก็เคยบอกว่างานนี้มันอันตราย แต่เขาก็ทำมานาน และอุปกรณ์ป้องกันแฟนหนุ่มก็ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง แต่ก็ยอมรับว่าแฟนเป็นคนสูบบุหรี่
ขณะที่ นางสาวธนัญญา ผู้เห็นเหตุการณ์ และได้ยินเสียงระเบิด บอกว่าได้ยินเสียงระเบิด ดังสนั่นหวั่นไหว และรู้สึกเหมือนมีเศษบางอย่างกระเด็นมาโดนหลังคาบ้าน จึงวิ่งออกมาดูก็เห็นกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งแต่ตอนนั้นยังไม่เห็นผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บเธอ จึงรีบโทรแจ้ง 191 ยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอตกใจมากเพราะบ้านเธอและละแวกนี้มีแต่ผู้สูงอายุพร้อมบอกว่าก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ภายในซอยเดียวกันเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว
เช่นเดียวกับนายนิธิ เพื่อนบ้าน ที่ติดกับหลังที่เกิดเหตุบอกว่า รู้จักกับเจ้าของมานาน พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่าได้ยินเสียงรถมาจอด ซึ่งจะมาแบบนี้ทุกวัน แต่วันนี้มาจอดเพียง 5 นาที ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังจึงรีบวิ่งออกจากบ้านเพราะรู้ว่า เป็นเสียงจากแก๊สระเบิด เมื่อวิ่งออกมาดูก็เห็นควัน และฝุ่นกระจายเต็มพื้นที่แต่ยังไม่เห็นผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บ พร้อมยอมรับรู้สึกกังวล เพราะบ้านหลังดังกล่าวเก็บถังแก๊สมากกว่า 10 ปี ถังค่อนข้างเก่า และก็กลัวว่าสักวันจะเกิดแก๊สระเบิด หากระเบิดบ้านตนคงพังไปด้วย โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่า ยังโชคดีที่ระเบิดเพียงถังเดียว หากระเบิดพร้อมกันหลายถังอาจจะสูญเสียมากกว่านี้ ส่วนบ้านตนนั้นได้รับความเสียหายบางส่วนที่บริเวณกำแพงที่รั้วติดกันกับบ้านที่เกิดเหตุ กระจกประตูได้รับความเสียหาย
ด้านผู้อำนวยการเขตหนองแขมเปิดเผยว่า ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบถังออกซิเจน จำนวน 37 ถัง ถังคาร์บอนไดออกไซด์จำนวน 16 ถัง และถังบรรจุแก๊ซอเซทิลีน จำนวน 18 ถัง รวมทั้งหมด 71 ถัง ซึ่งผู้ประกอบการระบุว่าเป็นถังเปล่าที่รับมาจากโรงงานอุตสาหกรรม นำมาเก็บเอาไว้เพื่อเตรียมนำไปบรรจุสารเคมี และส่งกลับไปยังโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนถังเคมีที่ระเบิด เบื้องต้นระบุว่าเป็นถังที่บรรจุแก๊ซอเซทิลีน เป็นสารเคมีที่ใช้สำหรับเชื่อมโลหะในภาคอุตสาหกรรม เบื้องต้นจากการตรวจสอบบริเวณสถานที่เกิดเหตุไม่พบว่าได้ขออนุญาตในการจัดเก็บทางเคมีอย่างถูกต้อง ซึ่งสำนักงานเขตจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานประสานกับทางพนักงานสอบสวน และพิสูจน์หลักฐาน เตรียมดำเนินคดีกับเจ้าของกิจการ และสั่งให้ปิดพื้นที่เกิดเหตุโดยทันที โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่อันตราย เร่งประสานทางเจ้าของกิจการนำทางเคมีที่มีความเสี่ยง เช่นถังแก๊ซอเซทิลีน ออกจากพื้นที่ภายในวันนี้ ส่วนสาเหตุการระเบิดขณะนี้ยังต้องรอผลพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจว่าเกิดด้วยสาเหตุใด
นายชุม สนสายัณต์ หัวหน้าสถานีดับเพลิงบางแค เปิดเผยว่า การระเบิดดังกล่าว หากมีแก๊ซที่คงค้างในถัง หากใช้ไม่หมดถ้ามีการเคลื่อนย้ายหรือตกกระแทกก็อาจจะทำให้ระเบิดได้ ส่วนกรณีถังอาจจะเสื่อมสภาพเป็นสาเหตุเกิดระเบิดขึ้นนั้น ปกติแล้วทางโรงงานที่บรรจุจะต้องตรวจสอบถัง ถ้าชำรุดก็จะไม่มีการบรรจุลงไป อีกหนึ่งข้อสงสัย คือถังอะซิทิลีนเป็นวัตถุไวไฟ มีความเป็นไปได้ หากเกิดประกายไฟจากจุดไฟบุหรี่ ขณะที่มีแก๊ซรั่วไหล หรือทางคนงานพยายามเปิดวาล์วเพื่อระบายก๊าซออกจากถัง ซึ่งข้อสรุปยังต้องรอเจ้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบให้ชัดเจนมากกว่านี้
อ.อ๊อดคาดเหตุแก๊สระเบิด เกิดจากถังก๊าซอะเซทิลีน
ด้าน รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ และผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ อ.อ๊อด ให้ข้อมูล กรณีเรื่องถังออกซิเจน ระเบิดว่า จากภาพที่เกิดเหตุทราบว่า พบว่ามีถังออกซิเจนสีเขียว โดยจะมีคุณสมบัติถังวาล์ว CGA540 มาตรฐาน ISO9809-3 เหล็กหนาปั้มขึ้นรูปไร้รอยตะเข็บ แรงดัน 1500-2000 PSI ขนาดบรรจุ 10L – 40L ปริมาตรบรรจุ 0.5m3 – 6m3
ส่วนถังสีแดง บรรจุก๊าซอะเซทิลีน ซึ่งมีแรงดันค่อนข้างสูง และเป็นก๊าซไวไฟ ในภาคอุตสาหกรรมมักใช้คู่กัน และจากร่างผู้เสียชีวิตมีเขม่าเป็นสีเทาดำ น่าจะเกิดจากการติดไฟ หรือเกิดปฏิกิริยาติดไฟ จึงเชื่อว่าเกิดจากก๊าซอะเซทิลีน ขนาด 40 ลิตร มีแรงดันค่อนข้างสูง อยู่ที่ 1500-2000 PSI หากถังเก่าขึ้นสนิมและตกหล่นถูกกระแทก จะทำให้ถังโลหะฉีกขาด เกิดระเบิดขึ้นได้จึงถือเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ประกอบการ ต้องระมัดระวังในการตรวจเช็คสภาพถังออกซิเจนรวมถึงผู้ที่ทำงานในด้านนี้ต้องใช้ความระมัดระวังในการขนย้าย และการบรรจุก๊าซออกซิเจนถึง 2000 PSI ควรใช้ถังใหม่ที่มี ISO มาตรฐาน มอก. -สำนักข่าวไทย