fbpx

ผู้บาดเจ็บสิงคโปร์แอร์ไลน์ตกหลุมอากาศ กลับบ้านแล้ว 27 ราย

กทม. 22 พ.ค.-รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ เผยผู้บาดเจ็บ 103 ราย จากเหตุเครื่องบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ตกหลุมอากาศ อยู่ ICU 20 ราย กลับบ้านแล้ว 27 ราย

โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เรื่องการเกิดอุบัติภัยหมู่เครื่องบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ตกหลุมอากาศ ดังนี้ จากเหตุการณ์เที่ยวบินของสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ321 ซึ่งเดินทางจากลอนดอน (ฮีทโธรว์) มุ่งหน้าไปยังสิงคโปร์ เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรงระหว่างเส้นทาง เครื่องบินลำดังกล่าวจึงเปลี่ยนเส้นทางไปกรุงเทพฯ วันที่ 21 พฤษภาคม 2567 นั้น


โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ขอรายงานให้ทราบว่า ในวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวมารักษา (Refer Case) ที่โรงพยาบาล และโรงพยาบาลอื่นๆ ทั้งหมด 84 ราย และรับการรักษาที่คลินิกสมิติเวช สุวรรณภูมิ จำนวน 19 ราย รวมทั้งสิ้น 103 ราย

ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00 น. มีดังนี้ ผู้ป่วยได้รับการรักษาแล้วกลับบ้านทั้งหมด 27 ราย จำนวนผู้บาดเจ็บที่ยังรักษา ณ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ มีจำนวน 41 ราย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 15 ราย โรงพยาบาลกรุงเทพ 2 ราย


มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ผู้ป่วยที่รักษาในแผนกผู้ป่วยหนัก (ICU) ทั้งหมดจำนวน 20 ราย โดยรักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ 13 ราย มีสัญชาติ ออสเตรเลีย 3 ราย สหราชอาณาจักร 2 ราย จีน (ฮ่องกง) 1 ราย มาเลเซีย 5 ราย นิวซีแลนด์ 1 ราย และสิงคโปร์ 1 ราย รักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 7 ราย โดยมีสัญชาติ สหราชอาณาจักร 4 ราย ฟิลิปปินส์ 1 ราย มาเลเซีย 1 ราย สิงคโปร์ 1 ราย

2. ผู้ป่วยที่รักษา/พักฟื้น ในแผนกผู้ป่วยใน ทั้งหมดจำนวน 38 ราย รักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ 28 ราย มีสัญชาติ สหรัฐอเมริกา 1 ราย ออสเตรเลีย 6 ราย สหราชอาณาจักร 8 ราย ฟิลิปปินส์ 5 ราย ไอร์แลนด์ 2 ราย เกาหลีใต้ 1 ราย มาเลเซีย 1 ราย นิวซีแลนด์ 2 ราย เมียนมา 1 ราย สเปน 1 ราย รักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 8 ราย โดยมีสัญชาติ สิงคโปร์ 1 ราย ออสเตรเลีย 3 ราย อินเดีย 1 ราย มาเลเซีย 2 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย และรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ 2 ราย โดยมีสัญชาติสิงคโปร์ 2 ราย

3. ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 แล้วจำนวน 9 ราย ณ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ทั้งนี้ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อย และอาการคงที่


4. ผู้ป่วยที่จะเข้ารับการผ่าตัดในวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 คาดว่ามีจำนวนทั้งหมด 5 ราย ณ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้