กทม.ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงช่างโยธาเรียกรับสินบน

กรุงเทพฯ 22 พ.ค.-“ชัชชาติ” ผู้ว่าฯ กทม. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง และสั่งพักราชการนายช่างโยธาเรียกรับสินบน

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีการจับกุมขบวนการเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธา กทม. เรียกรับสินบน 9 ล้านบาท แลกกับการช่วยแก้ไขแบบแนวเขตโครงการถนนเลียบวารี ไม่ให้เข้าไปในเขตสนามกอล์ฟ ว่า กทม.มีหลักการคือ ไม่ทนต่อการทุจริต และทราบเบาะแสตั้งแต่ช่วงกลางปี 66 ซึ่งมีการแจ้งเหตุมาว่า มีเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการ โดยรายละเอียดต่างๆ ได้ให้ความร่วมมือกับทางตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นผู้ดำเนินการสืบสวนต่อ

ส่วน กทม. มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง โดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อให้ทางตำรวจดำเนินคดีความทางอาญาต่อไป

ส่วนเรื่องของคดี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยว่า หลังสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พนักงานสอบสวนอนุญาตให้ 3 ผู้ต้องหา ประกันตัวในชั้นสอบสวน คือ น.ส.อรนุช อายุ 38 ปี นายปองพล อายุ 52 ปี และ น.ส.ลินดา อายุ 43 ปี ส่วนนายภีมพงษ์ อายุ 46 ปี นายช่างโยธาชำนาญงาน กองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักงานโยธา กทม. ผู้ต้องหาสำคัญเพียงรายเดียวที่ไม่อนุญาตให้ประกัน มองว่ามีพฤติกรรมไม่ให้ความร่วมมือ คาดว่าหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนชั้นสอบสวนแล้ว จะเร่งนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

แม้ขณะนี้จับกุมผู้ต้องหาคนสำคัญอย่างนายภีมพงษ์ และพวก 4 คนได้แล้ว แต่จากแนวทางสืบสวนยังเชื่อว่า ขบวนการดังกล่าวไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เชื่อว่าน่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสูงกว่านายภีมพงษ์ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือสนับสนุนอยู่เบื้องหลังด้วย เพราะลำพังแค่นายภีมพงษ์ คนเดียวไม่สามารถดำเนินการได้ถึงเพียงนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่พอมีหลักฐานเชื่อมโยง แต่คงต้องใช้เวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดว่า เจ้าหน้าที่รายนี้ร่วมกระทำผิด หรือรับผลประโยชน์จากการขบวนการทุจริตนี้ด้วยหรือไม่.-สำนักข่าวไทย