ม.ราชภัฏเพชรบุรี 14 พ.ค.-“ภูมิธรรม” บอก “ของขึ้น” เหตุ “หมอวรงค์” ด้อยค่าข้าว 10 ปี ท้ามาจูงมือไปพิสูจน์ด้วยกัน อย่าจินตนาการ ด้อยค่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศ ยันข้าวไม่เน่า พิสูจน์ได้ วอนให้หยุด ถ้าไม่หยุดจะดำเนินการตามกฎหมาย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลาออกจากตำแหน่งพร้อมระบุเหตุผลการตัดสินใจว่าไม่ให้เกียรติกัน ว่า ไม่ทราบรายละเอียด ให้เขาไปพูดกันเอง หากวิจารณ์ไปจะเป็นเหมือนการจินตนาการและไปพูดกันเอาเอง ซึ่งต้องไปถามผู้ที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามถึงความคืบหน้าผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ข้าว 10 ปี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตนได้เขียนความเห็นและความในใจของตนให้ที่ประชุมและสาธารณชนรับรู้แล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนได้พิสูจน์ทราบขั้นต้นก่อนนำออกมาประมูล รวมทั้งเป็นการพิสูจน์ที่โปร่งใสและกว้างขวาง ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งในกระบวนการด้านใน และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เนื่องจากข้าวกองใหญ่มาก ถึง 150,000 กระสอบ
ส่วนเมื่อคืนนี้(13 พ.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคไทยภักดีระบุว่าไม่มีตรา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันได้ว่ามีหมด สามารถดูภาพจากสื่อที่ถ่ายเอาไว้ได้ อยากให้วิจารณ์ตามฐานข้อเท็จจริง ไม่ใช่อยู่ ๆนั่ งคิดไปเอง หรือสร้างนิยายในอากาศ และนำมาพูดโดยที่ไม่เป็นประโยชน์ ข้าวเป็นสินทรัพย์ของประเทศไทย สร้างรายได้จากการส่งออก การออกมาด้อยค่าโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงเท่ากับทำลายเศรษฐกิจและความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ไม่อยากให้นพ.วรงค์ด้อยค่า ตนพร้อมพิสูจน์อยู่แล้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้างต้น กระบวนการโปร่งใสที่สุดแล้ว ทุกสำนักข่าวยืนยันได้ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ซึ่งผมชี้ให้เห็นว่าข้าวน่าจะสามารถนำไปประมูลได้ แนะนำไปประมูลอย่างเปิดเผย โดยที่ทุกคนมีสิทธิ์ประมูล ผมไม่ได้ย้อมแมวขาย ไม่จำเป็นต้องหอมเหมือนข้าวใหม่ และจะนำไปขายที่ตลาดแอฟริกา เนื่องจากเขากินข้าวเก่ากันอยู่แล้ว และเขาชอบข้าวเก่า ดังนั้น คนที่จะมาซื้อจะยอมซื้อข้าวเน่าหรือ ผู้ประกอบการผู้ส่งออกข้าวทั้งหมด ธุรกิจเป็นหมื่นล้านอยู่แล้ว จะมาโกหกเพื่อให้ธุรกิจเขาพัง
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนที่ออกมาพูดและไม่มีความรู้ เป็นการให้ข้อมูลเท็จเข้าไปในคอมพิวเตอร์ “ผิดกฎหมาย” แต่ตนมองว่าคงไม่มีเจตนาอะไร หากยังไม่หยุด ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปจัดการให้เหมาะสม อย่าด้อยค่าข้าวไทย ด้อยค่าประเทศ เพราะจะกระทบกระเทือนในระยะยาว ตนไม่ได้คิดจะไปฟอกขาว ข้าวออกดีก็ขายได้ราคาดี หากเน่าจริงก็ขายตามสภาพ จะขายเป็นอุตสาหกรรม ปุ๋ย หรือคนกิน ก็อยู่ที่ข้อเท็จจริง พิสูจน์ได้ ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ขึ้นอยู่กับผู้ประมูลส่งออก ให้กรอกข้อมูลเองว่าจะเอาหรือไม่ และนำไปทำอะไร และเขาก็ให้ราคามา
“จากที่ดูข้างต้น โรงสีระบุว่าสามารถนำมาขัดสีได้ ส่วนสารรมควัน ทั่วโลกให้การยอมรับและไม่มีผลกระทบต่อชีวิตผู้คน รวมทั้งมีอีกหลายกระบวนการเพื่อขายข้าวเพื่อให้ข้าวได้ราคาดี นำรายได้เข้าคลัง ส่วนที่มาด้อยค่า ท่านสะใจใช่หรือไม่ นพ.วรงค์ อยากทำเช่นนี้ใช่หรือไม่ แนะให้มาจูงมือผมไปพิสูจน์ ถ้าเข้าสู่กระบวนการได้ นนพ.วรงค์ ต้องรับผิดชอบมากกว่านี้ ฉะนั้น ยุติได้แล้ว ส่วนกระบวนการหลังจากนี้ จะเปิดให้ประมูล และเข้าสู่กระบวนการ ส่วนประเด็นการทานข้าว ผมก็รับประทานอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จะพิสูจน์อะไรอีก และยังมีปัญหาอะไรอีก ยังทำลายประเทศไทยไม่พอใช่หรือไม่”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
เมื่อถามว่า กระทรวงพาณิชย์จะไม่ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งที่เป็นจริงขณะนี้กระบวนการจะเกิดขึ้นท่ามกลางการประมูลอยู่แล้ว หากมีปัญหาจริง ๆ ตนไม่ขัดข้องและสามารถไปยื่นได้ แนะให้นำกระบวนการมาตรฐานมาตรวจสอบ ไม่ใช่อาจารย์คนนั้นคนนี้มาตรวจสอบ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ เพราะมันเป็นหน้าที่ของกระทรวง ที่เกี่ยวข้อง หากได้รับเรื่อง ตนจะพาเขาไปเจาะข้าวทันที และนำมาเข้าสู่ขบวนการ
“ผมอยากให้จบเรื่องนี้ เพราะมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก ส่วนที่บอกว่าสร้างความชอบธรรมให้นักการเมือง ที่พูดออกมามีสมองหรือไม่ ผมยืนยันว่าข้าวที่นำออกมามี 2 ถุงที่ให้นายกิตติ สิงหาปัดและนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 เพียง 2 คนเท่านั้น ซึ่งผมมองว่าเป็นสื่อ เมื่อได้รับประทานแล้วจะได้เข้าใจ ข้าวนั้นเป็นข้าวหลวง หากจะนำออกไปต้องมีกระบวนการ หากนำออกไปมันผิดกฎหมาย ผมไปกับเจ้าหน้าที่รัฐจึงนำออกมาได้เพื่อให้พิสูจน์ทราบ ผมทำตามกระบวนการ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นข้าวเน่า หากเน่าก็จะขายเป็นราคาข้าวเน่า แต่ผมทานแล้วมันดี ขายได้ในราคา 18-20 บาท หากนำไปขาย 5 บาท อย่างที่เคยขายมันดีหรือ ผมไม่ได้โมโห แต่พูดจากอารมณ์และใจจริง แต่ของมันขึ้น และหากพิสูจน์แล้วว่าข้าวไม่เน่ามันจะกระทบใคร หรือนพ.วรงค์ปกป้องความผิดของตัวเองหรือเปล่า ผมไม่ทราบ” นายภูมิธรรม กล่าว.-317.-สำนักข่าวไทย