รู้ตัวผู้ต้องสงสัย ยิงดาบตำรวจ-เมียท้อง 6 เดือน ดับ

ปราจีนบุรี 13 พ.ค. – รู้ตัวคนร้าย ยิงดาบตำรวจ-ภรรยาท้อง 6 เดือน ทิ้งอำพรางศพกลางไร่มัน ปมเหตุขัดแย้งธุรกิจน้ำมันในพื้นที่ เค้นสอบลูกชาย-เพื่อนของผู้ต้องสงสัย


เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง ดาบตำรวจสกล บรรลุ เสียชีวิตพร้อมภรรยาชาวลาวท้อง 6 เดือน แล้วนำศพใส่รถทิ้งข้างบ่อน้ำในไร่มันสำปะหลัง หวังอำพรางคดี ล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 2 ร่วมกับสืบสวนภูธรจังหวัดปราจีนบุรี นำตัวลูกชายผู้ต้องสงสัยที่เป็นมือสังหารมาสอบปากคำและกันไว้เป็นพยาน หลังรับสารภาพว่า เป็นคนนำเสื้อผ้าของพ่อที่เปื้อนเลือดไปเผาทำลาย และพาหลบหนี จากนั้นได้พาไปงมหาของกลางทั้งเสื้อผ้าและโทรศัพท์สองเครื่องที่โยนทิ้งน้ำ

นอกจากนั้น ชุดสืบภาค 2 ยังนำตัวกลุ่มเพื่อนผู้ต้องสงสัย 2 คน มาสอบสวน เนื่องจากพบว่าเชื่อมโยงกับธุรกิจน้ำมันเถื่อน มูลค่าหลายแสนบาทต่อเดือน เบื้องต้น 1 ในนั้นยังให้การปฏิเสธ ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของดาบตำรวจสกล แม้จะรู้จักสนิทสนมกันก็จริง แต่เป็นเพียงเจ้าของที่ให้เช่าทำธุรกิจเท่านั้น และจากการสอบสวน พบว่าหลังก่อเหตุ คนร้ายได้หลบหนีไปอยู่บ้านของผู้มีอิทธิพลแห่งหนึ่งในปราจีนบุรี ยังไม่ได้หนีออกนอกพื้นที่ตามที่เป็นข่าว ซึ่งตำรวจกำลังตามประกบ คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้


สำหรับเหตุการณ์นี้ ตำรวจได้รับแจ้ง จากภรรยาผู้ตายว่า สามีพบกับคนร้าย และวิ่งตามกันไป จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทั้งส่งพิกัดให้ตำรวจที่เป็นเพื่อนกัน ตำรวจนายนั้นจึงขับรถตาม GPS จุดสุดท้ายที่ได้รับ แต่ไม่พบดาบตำรวจและภรรยา ทั้งติดต่อไม่ได้ จึงประสานกู้ภัยช่วยกันตามหา กระทั่ง 19.00 น. เมื่อวาน (12 พ.ค.) ชุดสืบสวน พบรถกระบะอีซูซุ สีบอร์นของ ด.ต.สกล จอดบริเวณข้างบ่อน้ำแถวป่ามันสำปะหลัง ต.กรอกสมบูรณ์ ห่างจากถนนสาย 3079 ประมาณ 4 กม. และพบ ด.ต.สกล เสียชีวิตบริเวณเบาะด้านหน้ารถ มีบาดแผลถูกยิงตามตัว 9 นัด ส่วนภรรยาชาวลาว อายุ 24 ปี ซึ่งตั้งครรภ์ 6 เดือน ถูกยิง 7 นัด เสียชีวิตบริเวณเบาะหลังรถ

บรรยากาศที่บ้านนาหมอม้า ต.นาหมอม้า อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ บ้านเกิดของดาบตำรวจสกล ครอบครัวของดาบตำรวจ กำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับศพ ด.ต.สกล โดยแม่ของ ด.ต.สกล เล่าทั้งน้ำตาว่า ลูกชายมีลูก 3 คน คนที่ 4 ยังอยู่ในท้อง ตอนลูกชายเดินทางไปปราจีนบุรี ก็บอกแค่เพียงว่านายเก่าโทรมาให้ไปหา จึงพาภรรยาไปด้วย ไม่รู้ว่าทำไมมือปืนถึงต้องมายิงลูกและลูกสะใภ้ เพราะลูกชายไม่เคยมีปัญหากับใคร มือปืนเป็นคนโหดเหี้ยมมาก ฆ่าได้แม่กระทั่งคนที่กำลังตั้งท้อง อยากให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนยิงมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”