สุรินทร์ 6 พ.ค.-“ภูมิธรรม” พาสื่อเปิดโกดังข้าวโครงการรับจำนำรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พิสูจน์ข้าว 10 ปี ยังกินได้ เป็นที่ต้องการแถบแอฟริกา พร้อมจัดเมนูพิเศษตามคำขอ ข้าวกะเพราไข่เจียว ให้ผู้สังเกตการณ์ทดสอบ เล็งเปิดประมูลสัปดาห์หน้า
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พาสื่อมวลชนเข้าตรวจโกดังเก็บข้าวสาร จากโครงการรับจำนำข้าว ปี 2556/57 ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งเหลือเป็น 2 โกดังสุดท้าย คือ โกดังคลังกิตติชัย หลัง 2 อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จำนวนคงเหลือ 112,711 กระสอบ และคลังสินค้า บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 ปัจจุบันมีข้าวคงเหลือ 32,879 กระสอบ รวมเป็น 145,590 กระสอบ เพื่อสุ่มตรวจสอบคุณภาพข้าว ก่อนนำเปิดประมูลในสัปดาห์หน้า
โดยเจ้าหน้าที่ได้สุ่มเก็บตัวอย่างข้าวในคลังสินค้าที่เก็บไว้ ตามความต้องการของสื่อมวลชน โดยได้เก็บจากคลังกิตติชัย หลัง 2 ทั้งหมด 7 ตัวอย่าง เพื่อนำไปรวมกับคลังสินค้า บจก.พูนผลฯ อีก 2 ตัวอย่าง รวมเป็น 9 ตัวอย่าง นำไปหุงเป็นข้าวสวยพร้อมรับประทานกับกะเพราไก่ เพื่อยืนยันว่า ข้าวมีอายุถึง 10 ปี แต่คุณภาพข้าวยังสามารถหุงรับประทานได้
ระหว่างทางการขนส่งทั้ง 2 โกดัง มีระบบความปลอดภัย โดยมีตำรวจ เจ้าหน้าที่ และตัวแทนสื่อมวลชน นั่งท้ายรถขนส่งไปยังอีกหนึ่งโกดัง เพื่อเป็นสักขีพยาน สร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีการสับเปลี่ยนข้าวระหว่างทาง
สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยโกดังเก็บสินค้าดังกล่าว ถูกล็อกไว้ด้วยกุญแจ 3 ดอก คือ เอกชนเจ้าของโกดัง พาณิชย์จังหวัด เจ้าหน้าที่ อคส. เป็นผู้ถือกุญแจเปิดโกดัง ก่อนจะสามารถเปิดเข้าไปได้ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีการลักลอบเปิดเข้าไปสับเปลี่ยนข้าวอย่างแน่นอน
ด้าน “ทิชาภา อ่าวพัฒนา” เจ้าของโกดังเก็บข้าวสาร ยืนยันว่า มีระบบดูแลรักษาตามมาตรฐาน ตามกฎที่ อคส.กำหนด ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันไม่ให้มีน้ำรั่ว จำนวนกระสอบข้าวต้องอยู่ครบตามสัญญา รวมถึงคุณภาพของข้าว และจะมีการรมยาทุก 2 เดือน ซึ่งการรมยาจะทำให้เมล็ดข้าวยังคงรักษาความเป็นเมล็ดข้าวที่ดี
ด้านนายศุภชัย วรอภิญญาภรณ์ ผู้ประกอบการส่งออกข้าว ในฐานะผู้สังเกตการณ์ ยืนยันว่า ข้าวเก่าสามารถส่งออกไปขายได้ ซึ่งต่างประเทศยังมีความต้องการ โดยเฉพาะตลาดข้าวในแถบทวีปแอฟริกา ที่มีความนิยมข้าวเก่า ทางกระทรวงพาณิชย์จึงเชิญให้เข้าร่วมตรวจสอบก่อนยื่นประมูล โดยคาดว่าจะมีการประมูลภายในสัปดาห์หน้า หรือเดือนพฤษภาคมนี้
สำหรับการตรวจสอบข้าวทั้งสองโกดังในครั้งนี้ พบว่ามีผู้สังเกตการณ์จากหลายภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการค้าข้าว ผู้แทนส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด สื่อมวลชน และภาคประชาชนในพื้นที่.-314.-สำนักข่าวไทย