“อุ๊งอิ๊งค์” มั่นใจอยู่ 4 ปี ฟาดแบงก์ชาติไม่ร่วมมือ

พรรคเพื่อไทย 3 พ.ค -“อุ๊งอิ๊งค์” โชว์วิสัยทัศน์ “10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10” ปลุกลูกพรรคไม่ต้องสนวาทกรรมคู่แข่ง ให้เอาผลงานเข้าสู้ มั่นใจอยู่ 4 ปี ประชาชนให้เต็ม 10 ลั่นเพิ่มค่าแรง 400 ไม่ทำให้ธุรกิจเจ๊ง แขวะแบงก์ชาติไม่ร่วมมือ ทำลดเพดานหนี้ไม่ได้


ผู้สื่อข่าว่ายงานว่าพรรคเพื่อไทย จัดงาน “10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10”  ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่รัฐบาลที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้ารับตำแหน่งและเริ่มบริหารราชการแผ่นดิน จากวันที่ 1 กันยายน 2567 จนถึงวันนี้ เป็นเวลาเกือบ 9 เดือน และกำลังเดินหน้าสู่เดือนที่ 10 ที่พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาทำงาน วันนี้นายกรัฐมนตรีลาราชการครึ่งวัน เพื่อเข้าร่วมงานและแสดงวิสัยทัศน์ ในหัวข้อ “4 ปีรัฐบาลเปลี่ยนประเทศ  เติมประเทศไทยให้เต็ม 10” 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นคนแรกในการแสดงวิสัยทัศน์ ในหัวข้อ “เติมเพื่อไทยให้เต็ม 10 สนับสนุนรัฐบาลเปลี่ยนประเทศ” ว่า วันนี้ในนามหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเราตัดสินใจถูกต้องมาก ๆ ที่จัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้นเมื่อ 10 เดือนที่แล้ว เพราะปัญหาที่มีอยู่มากมาย และหลังจากที่เราเข้ามาเป็นรัฐบาลได้เห็นปัญหาที่สะสมมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่การปฏิวัติรัฐประหารถึงสองครั้ง  ซึ่งใช้เวลาเกือบสองทศวรรษด้วยกันและรวมไปถึงปัญหาระบบราชการที่ใหญ่โตเกินไปทำให้อึดอัดในการทำงาน ไม่พร้อมสำหรับการปรับตัวในยุคปัจจุบัน


หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อีกเรื่องคือเรื่องภัยคุกคามที่พัฒนาไปรวดเร็วมาก ขณะเดียวกันเยาวชนก็มีปัญหาเรื่องยาเสพติดถูกมอมเมาในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ประชาชนของชาติอ่อนแอ  โอกาสการทำมาหากินของพี่น้องพี่น้องประชาชนมีไม่มาก ที่สำคัญเศรษฐกิจใต้ดินก่อนที่เราจะเข้ามาเป็นรัฐบาลเป็นสิ่งที่มีมากที่สุดในประวัติศาสตร์  พรรคเพื่อไทยเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการบริหารอย่างยาวนาน ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าเราเป็นพรรคที่บริหารงานได้สำเร็จและผลักดันทุกนโยบายให้สำเร็จตามที่เคยได้พูดไว้มากที่สุดของประเทศไทยและ หากเราไม่เลือกที่จะตัดตั้งรัฐบาลผสมและเป็นแกนนำรัฐบาลคงไม่มีโอกาสเริ่มแก้ปัญหาต่างๆที่สะสมมานาน

“ตอนนี้กฎหมายพยายามจะให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอิสระจากรัฐบาล  เรื่องนี้ถือว่าเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญมาก ๆ ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ  เพราะนโยบายทางด้านการคลังถูกใช้งานเพียงด้านเดียวมาโดยตลอด  และทำให้ประเทศของเรามีหนี้สูงมากขึ้นและสูงเพิ่มมากขึ้นทุกปีจากการตั้งงบประมาณที่ขาดดุล ถ้านโยบายการเงินที่บริหารโดยธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ยอมเข้าใจและไม่ยอมให้ความร่วมมือ  ประเทศของเราจะไม่มีทางลดเพดานหนี้ได้เลย” น.ส.แพทองธารกล่าว

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า  10 เดือนที่ผ่านมาภายใต้การนำของนายเศรษฐา เราได้วิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและเห็นว่าเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและยาวนานจะต้องใช้ความรู้ความเข้าใจจากทุกภาคส่วนแก้ปัญหาให้ดีขึ้น เราเสียเวลาไปแล้วเกือบสองทศวรรษ ตอนนี้เราเข้าใจดีว่าปัญหาทุกอย่างไม่ได้ง่าย แต่ามั่นใจว่าจะทำอย่างเต็มที่และมั่นใจว่าาจะทำให้เต็ม10 ได้อย่างแน่นอน


สำหรับนโยบายด้านเศรษฐกิจนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องเริ่มต้นด้วยการเติมเงินเข้าสู่ระบบ นั่นก็คือนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต เพราะเงินถูกดูดออกจากระบบมาก  มากจนเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของเราโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในอาเซียน  และตอนนี้เราได้เพิ่มค่าแรงเป็น 400 บาทแล้ว ซึ่งการเพิ่มค่าแรงจะทำให้ทุกฝ่ายได้ปรับตัว  อยากให้ทุกฝ่ายจำไว้ว่า การเพิ่มค่าแรงไม่ทำให้ธุรกิจ “เจ๊ง” แต่จะเพิ่มผลผลิตจากความพอกินของพนักงาน เราจึงจะผลักดันในทุกมิติของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต  การเพิ่มค่าแรง  รวมถึงการเพิ่มเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ

“เรากำลังจะค่อย ๆ เปลี่ยนจากรัฐบาลที่อุ้ยอ้าย ตรวจสอบยากมาเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่ตรวจสอบได้ รวดเร็วทันต่อการรับมือเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างทันท่วงที และเร็ว ๆ นี้ เราจะเริ่มปรับโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม และจะแก้กฎหมายทางเศรษฐกิจอีกหลายฉบับ เพื่อให้ประเทศไทยของเรากลับมาเป็นศูนย์กลางการบินและการเงินของอาเซียนให้ได้ และตอนนี้เราเข้าใจถึงปัญหาต่าง ๆ มากมาย ส่วนปัญหาความมั่นคงและต่างประเทศ เราไม่ได้ละเลย แต่มีความตั้งใจว่าต่อไปจะผูกมิตรกับทุกมหาอำนาจและให้ประเทศไทยเปิดเป็นพื้นที่ของการเจรจาเพื่อความสันติ ขณะที่ปัญหาของเมียนมา ทางรัฐบาลรับทราบมาตลอด เราไม่ได้ละเลย เราจะช่วยสร้างความปรองดองควบคู่กับเรื่องมนุษยธรรม เราทำตามนโยบายที่เราเคยวางไว้ตามที่บอกกับประชาชนและสุดท้ายเมื่อรัฐบาลได้อยู่ครบ 4 ปีเรามั่นใจว่าพี่น้องจะให้คะแนนเราเต็ม 10 แน่นอน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทุกอย่างตอนนี้  ฟันเฟืองทุกชิ้นกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าเพื่อปลายทางของชีวิตพี่น้องประชาชนที่ดีขึ้น ตอนนี้ภาพของพรรคเพื่อไทยที่มองเห็นคือพรรคเพื่อไทยจะต้องก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยความเข้มแข็ง  แข็งแรง  และมีประสิทธิ เราเป็นพรรคที่มีนโยบายที่ดีมีศักยภาพ มี สส.ที่เข้าใจปัญหาพี่น้องประชาชน  มีรัฐมนตรีที่เก่ง  มีนโยบายที่ตอบโจทย์เป็นรัฐบาลที่แข็งแรง  เมื่ออนาคตจะเปลี่ยนไปยังไงจะเจอเหตุการณ์อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในอนาคตเราจะสามารถทำนโยบายให้สำเร็จได้

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนนี้เรามีทีมงานใหม่ที่เกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทยคือพีทีพี อคาเดมี่ ซึ่งเป็นหลักสูตรเชิงปฏิบัติการ สส.เพื่อไทย จะเป็นหน่วยงานที่สร้างอนาคตให้กับ บุคลากรของพรรค และจะทำให้อาคาเดมี่นี้พัฒนาศักยภาพบุคคลของพรรค ซึ่งตนเองถือว่าเป็นหนึ่งในนักเรียนรุ่นแรก เพราะอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆในแง่ของการเมือง กฎหมาย ทำให้ตนเองมีคุณภาพ มีความรู้ที่เพิ่มมากขึ้น  เราอยากให้คนในพรรคเป็นแบบนั้นด้วยเช่นกันและต่อจากนี้การนำองค์ความรู้จะทำให้เราเป็นพรรคการเมืองที่มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น  ตนเข้าใจว่าในการอยู่ตรงนี้ในนามพรรคเพื่อไทย เรามีความคาดหวังสูงจากประชาชนเพราะเราเป็นพรรคที่ทำงานได้สำเร็จ อยากให้ทุกคนมีความมั่นใจในตนเองเพราะเมื่อประชาชนคาดหวังเราจะรู้ว่าเราจะตอบโจทย์ความคาดหวังของประชาชนได้อย่างไร

“แน่นอนพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่อยู่มานานเจอเรื่องราวต่างๆมามากมาย ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย  ซึ่งเราก็ผ่านมาด้วยกันได้  และการที่คู่แข่งของเราจะสร้างวาทกรรมต่างๆทำให้เราดูเป็นคนล้มเหลว ทำงานไม่เป็น หรือสร้างวาทะกรรมต่างๆให้เรารู้สึกว่าเหมือนเราผิดคำสัญญาต่อพี่น้องประชาชน  ทำนโยบายไม่ได้  เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่เราจะต้องพิสูจน์ใช้เวลา ใช้ผลงาน และใช้หัวใจที่ทุ่มเทของเราพิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนเห็น”  น.ส.แพทองธาร กล่าว

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากยังจำกันได้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคก็มีวาทะกรรม 30 บาทตายทุกโรค วันนี้ให้เห็นแล้วว่านโยบายนี้ก็ยังอยู่คู่กับพี่น้องคนไทย วาทกรรมเหล่านั้น  เราจะไม่อยู่ในเกมการเมืองเหล่านั้น  แต่เราจะอยู่ในอำนาจและหน้าที่ที่เรามีตอบโจทย์เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนเห็น  และเราเองก็ทราบดีว่าการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนในตอนนี้ การเมืองเป็นงานที่ thankless และ endless ซึ่งเราจะใช้ทั้งแรงกาย แรงใจอย่างเต็มที่ ซึ่งเสียงตอบรับของประชาชนจะเป็นแรงผลักดันให้ประเทศดีขึ้นพัฒนาขึ้น  และต่อจากนี้จะมีแต่เรื่องที่ดีขึ้นมีพรรคเพื่อไทยที่ดีขึ้นรัฐบาลที่เข้มแข็งขึ้นประเทศที่พัฒนาขึ้นและพี่น้องคนไทยที่มีชีวิตที่ดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเป็นที่สังเกตว่ารัฐมนตรีที่ถูกปรับออก อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางพวงเพชร ชุนละเอียด อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  นายไชยา พรหมมา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ไม่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่งเมื่อสอบถามได้รับแจ้งว่าวันนี้ เป็นงานเปิดตัวนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)-312.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.บังคับใช้ 7 มาตรการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง

ผบ.ตร. บังคับใช้ 7 มาตรการเข้มข้น แก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำชัดให้เห็นผลภายใน 7 วัน หากพบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวหรือบกพร่อง ฟันเด็ดขาด

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

ตร.สอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ปิดจบสยบ Fiwfans”

ตำรวจสอบสวนกลาง “เปิดปฏิบัติการปิดจบสยบ Fiwfans (ฟิวแฟน)” เว็บไซต์ค้ากามเด็กออนไลน์ จับแอดมิน 5 ราย ดำเนินคดี พบในรอบ 4 ปี มีหญิงค้าประเวณีผ่านเว็บไซต์กว่า 40,000 ราย อายุต่ำสุด 15 ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มาตรการสู้ฝุ่น

ขานรับมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน “รถไฟฟ้า-รถเมล์” ขึ้นฟรี

“รถไฟฟ้า-รถเมล์” ฟรีตามมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน พบส่วนใหญ่เลือกนั่งรถฟรี ประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนรถไฟฟ้าคนแน่น ขณะที่โรงเรียน กทม. 437 แห่ง เปิดเรียนตามปกติ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กทม.อากาศเย็นตอนเช้า-ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กับมีลมแรง ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล

เมย์วิวคว้าแชมป์แบด

“เมย์-วิว” คว้าแชมป์อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส

“น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ และ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คว้าแชมป์แบดมินตันอินโดนีเซีย มาสเตอร์ส ในประเภทหญิงเดี่ยวและชายเดี่ยว