สุโขทัย 2 พ.ค. – ตำรวจและคณะสงฆ์เร่งสอบข้อเท็จจริงหลวงตาลองของ ให้เด็กกำพระผงราดน้ำกรด ทดสอบความขลัง บาดเจ็บ 5 คน เด็กบอกกำพระแน่น แต่ปวดแสบปวดร้อน
คดีนี้ตำรวจยังรอสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กวัย 13 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 5 คน ซึ่งมือยังมีแผลพุพองจากการถูกราดน้ำกรดทดสอบความขลังของวัตถุมงคล ของหลวงตาวัดแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย เมื่อ 2 วันก่อน โดยแพทย์ทำการรักษาแล้ว พบเป็นแผลคล้ายถูกไฟลวก
ด.ช.โป้ง (นามสมมติ) อายุ 13ปี เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนกับเพื่อนเข้าไปเล่นในวัด เนื่องจากเพื่อนบวชเป็นสามเณรอยู่ เจอรุ่นพี่ชักชวนว่ามีเครื่องรางของขลัง ช่วยให้แคล้วคลาด ปลอดภัย ใครอยากลองจะมีเงินให้ 200 บาท พวกตนอยากได้เงินจึงเข้าไปในกุฏิหลวงตา หลวงตาจึงมอบพระสมเด็จปาฏิหาริย์ ให้คนละองค์ แล้วใช้น้ำกรดราดที่หลังมือ ตนรู้สึกปวดแสบปวดร้อน หลังมือไหม้เป็นแผลพุพอง จนผู้ปกครองรู้ข่าวจึงพามาแจ้งความ
เรื่องนี้กลายเป็นกระแสขึ้นมา หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กกินเที่ยวสุโขทัย โพสต์เรื่องราวนี้เมื่อ 2 วันที่แล้วว่ามีเหตุวุ่นวายที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย เมื่อผู้ปกครองเด็กวัย 13 ปี ไปแจ้งความที่ สภ.ทุ่งเสลี่ยม ว่ามีพระรูปหนึ่งลองของด้วยการให้เด็กกำวัตถุมงคลเอาไว้ในมือ แล้วเอาน้ำกรดราดมือเด็ก โดยให้ค่าจ้างกับเด็ก 200 บาท แลกกับการลองของขลัง
เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่าพระรูปดังกล่าวไม่ยอมออกมาพูดคุยกับผู้ปกครองเด็ก และมีลูกศิษย์มารับผิดแทน บอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง ทั้งค่าเสียหายและการรักษาจนกว่ามือเด็กจะหาย แต่การพูดคุยเจรจาดังกล่าวไม่ได้ข้อยุติ เพราะผู้ปกครองเด็กต้องการให้พระรูปที่ทำออกมารับผิดชอบด้วยตัวเอง มีการบันทึกคลิปที่ผู้ปกครองไม่พอใจไว้ด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นัดให้ผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายไปพบที่สถานีตำรวจภูธรทุ่งเสลี่ยม ในวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยข้อมูลที่ได้จากพ่อของเด็กอายุ 13 ปี จำนวน 4-5 คน ตกเป็นเหยื่อลองของพระรูปดังกล่าว เล่าว่า พระรูปดังกล่าวได้ทำของขลังและมาลองกับตัวแล้วไม่เป็นไร เลยให้เด็กๆ 5 คนมาลองของดู ซึ่งลูกชายของตนได้รับบาดเจ็บที่หลังมือเริ่มมีรอยพุพอง ตนเองคิดว่าการกระทำแบบนี้ไม่เหมาะสม และจะเอาเรื่องพระที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.นิคม พรมพิราม ผกก.สภ.ทุ่งเสลี่ยม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) มีการพูดคุยกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน โดยหลังจากผู้ปกครองนำเด็กผู้เสียหายเข้าแจ้งความ พนักงานงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ ไว้ แล้วจะประสานสหวิชาชีพเข้ามาร่วมสอบถามเด็ก ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่จะพยายามดำเนินการให้เร็วที่สุด และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนทางด้านสงฆ์ ทางพระผู้ใหญ่ได้นำเรื่องรายงานในระดับสูงแล้ว ซึ่งจะมีการตั้งคณะสอบสวนเรื่องราวโดยละเอียด และดำเนินการในส่วนของสงฆ์ ทั้งหมดพึงพอใจจึงแยกย้ายกันกลับ เพื่อรอการสอบสวนของตำรวจและคณะสงฆ์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกศิษย์และชาวบ้านบางส่วนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่ไม่ค่อยพอใจกับข่าวที่แชร์กันออกไป เนื่องจากถูกชาวเน็ตด่าทอให้เสียหาย บางคนเคยลองของแบบนี้เช่นกันเมื่อหลายปีก่อน ก็ไม่ปรากฏบาดแผลใดๆ และตนยังคล้องคอบูชาอยู่จนทุกวันนี้.-สำนักข่าวไทย