นายกฯ บอกขอโทษ “ปานปรีย์” แล้ว ไม่ขัดแย้ง

ทำเนียบรัฐบาล 29 เม.ย.-นายกฯ เผยขอโทษ “ปานปรีย์” แล้วหลังหลุดรองนายกฯ รับมีทั้งคนพอใจ ไม่พอใจ ยันสัมพันธ์ลูกเป็นเพื่อนกัน ไม่ขัดแย้ง เชื่อคนใหม่สานต่องานได้  


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยื่นหนังสือลาออกจากทุกตำแหน่ง ว่า เรื่องของโผการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) รอขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ ลงมา ดังนั้น จึงไม่เหมาะสมที่ตนจะพูดก่อน ส่วนเรื่องนายปานปรีย์ ตนเคารพการตัดสินใจ ส่วนตัวรู้จักกันมาหลายสิบปี ลูกเป็นเพื่อนกัน และรักชอบกันดี

ส่วนกรณีหนังสือลาออกของนายปานปรีย์ ที่ส่งให้สื่อมวลชนก่อนแจ้งนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ได้ยินก็เป็นอย่างนั้น ตนสะดวกพูดในแง่องค์รวมมากกว่า การปรับเปลี่ยนหน้าที่และคณะรัฐมนตรีต่าง ๆ เชื่อว่ามีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ สมหวังและไม่สมหวัง จึงอยากโฟกัสสิ่งที่ดี 7- 8 เดือนดีกว่า เชื่อว่ารัฐมนตรีคนใหม่ที่จะเข้ามาจะสานต่อสิ่งที่ดีเหล่านี้


“ผมได้ส่งข้อความไปหาในกลุ่มเรื่องการต่างประเทศว่าขอโทษ ถ้าทำให้พี่ไม่สบายใจเรื่องอะไร และขอบคุณที่ช่วยงานกันมา วันศุกร์ที่ผ่านมาได้เชิญหลายท่านมาพูดคุย ซึ่งนายปานปรีย์เป็นหนึ่งในคนที่มาคุย เชื่อว่าวันนั้นเป็นการสนทนาระหว่างบุคคลสองคน และมั่นใจว่าตนพูดอะไรไปในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมมีความชัดเจนในการบอกกล่าวอะไรออกไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนหาคนมาแทนแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องทูลเกล้าฯ รายชื่อใหม่ และระหว่างนี้ ตามประกาศคณะรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ดูแลไปก่อน ส่วนคนใหม่มองหาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ เพราะต้องคัดกรองคุณสมบัติก่อน ไม่อยากให้มีคนสมหวังหรือผิดหวังอีก ตนเคารพกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ เข้าใจ รัฐมนตรีหลายท่านสมหวังและไม่พอใจ ยืนยันว่า รับผิดชอบและต้องพูดคุยกัน

เมื่อถามย้ำว่าเป็นคนในหรือคนนอกพรรค นายเศรษฐา กล่าวว่า พูดลำบาก เพราะท่านอยู่ในแวดวงการทูตและแวดวงการเมือง เป็นคนที่ทำงานข้างหลังของพรรคเพื่อไทยมาตลอด มีจิตวิญญาณที่ยึดโยงกับพี่น้องประชาชน


ส่วนเหตุผลการลาออกของนายปานปรีย์ที่ระบุว่าที่ต้องควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพราะเป็นตำแหน่งที่สำคัญ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีเหตุผล แต่ทุกกระทรวงก็อยากควบรองนายกรัฐมนตรี หลายตำแหน่งต้องประสานงานระหว่างกระทรวง ทบวง กรม เชื่อว่าปัจจุบันเรามีรองนายกรัฐมนตรีหลายคนแล้ว หากทุกกระทรวงต้องควบรองนายกรัฐมนตรีคงไม่ได้ แต่ละรัฐบาลมีรองนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือบางรัฐบาลก็ไม่มีรองนายกรัฐมนตรีควบ

“ผมเชื่อว่าผมอำนวยความสะดวกหรือช่วยเหลือ ผลักดันเรื่องต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในการทำงานข้ามกระทรวง เชื่อว่าเราทำงานเป็นทีมได้อยู่แล้ว ซึ่งมองว่าไม่มีความจำเป็นควบกระทรวงการต่างประเทศ เรามีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันไป แต่เรายึดโยงกับความเป็นมิตรดีกว่า และมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ซึ่งผมขอโทษท่านไปแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องของความเห็นต่าง ทั้งหมดนี้ผมต้องรับผิดชอบ และจะพยายามดำเนินงานต่อไป โดยเอาผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนเสียดายหรือไม่ เพราะนายปานปรีย์ได้รับคำชมในการบริหารงานที่กระทรวงการต่างประเทศจากหลายฝ่าย นายเศรษฐา กล่าวว่า เสียดายทุกคนที่ต้องเปลี่ยนออกไป แต่ในบริบทการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปทุกช่วงเวลาของการบริหารประเทศ มีความจำเป็นหรือมีความต้องการแก้ไขปัญหาโดยการเปลี่ยนบุคลากรทั้งฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องปรับเพื่อให้คนที่เหมาะสมหรือมีความชำนาญมากกว่าในด้านนั้น ๆ เข้ามาทำหน้าที่ ไม่ได้หมายความว่าคนที่ถูกปรับไม่มีความสามารถบริหาร แต่รัฐบาลมีอายุ 4 ปี และในอดีต ไม่ใช่ว่าออกไปแล้วจะไม่กลับมาอีก มีหลายกรณีที่ออกไปแล้วกลับมาอีกครั้ง.-317.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน