ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

19 เม.ย. – ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน


ความคืบหน้ากรณีชายอายุ 46 ปี ลูกชายรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงหนึ่ง ดื่มสุราแล้วขับรถยนต์หรูชนแผงเหล็กล้มบริเวณปากซอยรัชดาฯ 31 และไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ตำรวจจึงใช้เครื่องตรวจวัดเบื้องต้นแบบไม่สัมผัสจ่อใกล้ปากและจมูก ปรากฏว่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 183 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก่อนจะควบคุมตัวส่ง สน.ประชาชื่น เหตุเกิดเวลา 03.30 น. ของวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา

พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผู้กำกับการ สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตำรวจจราจรที่ตั้งด่านคุมผู้ต้องหามาถึง สน. ในช่วงเวลาประมาณตี 5 ซึ่งผู้ต้องหาอยู่ในอาการเมาสุรา พูดจาวกวนไปมา ต้องให้นั่งสงบสติอารมณ์จนหายเมาถึงจะพูดคุยได้ ซึ่งให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงปรับพินัยในข้อหา “ฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจรที่สั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุรา” เป็นเงิน 1,000 บาท จนกระทั่งเวลา 08.00 น. จึงควบคุมตัวส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ในข้อหา “ขับรถในขณะเมาสุรา หรือเมาของอย่างอื่น” โดยศาลพิพากษาจำคุก 4 เดือน ปรับ 8,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน พร้อมให้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง


รมช.สาธารณสุข ยังไม่รู้ถูกโยงลูกชาย รมช.เมาขับ เผยปกติลูกเป็นเด็กดี
เรื่องคดีความดูจะได้ข้อยุติแล้ว แต่เมื่อผู้ก่อเหตุเป็นถึงลูกชาย รมช. จึงต้องมีความเห็นของฝ่ายต่างๆ ตามมา ซึ่งชื่อหนึ่งที่ถูกเชื่อมโยงคือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง บอกว่า “ยังไม่ทราบเลย เชื่อมโยงอะไรนะ ยังไม่รู้เลย เพราะไม่ได้อยู่ด้วย เขาโตแล้ว แยกครอบครัวไปแล้ว แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวต้องโทรถามเขาดูว่าเป็นอย่างไร” ก่อนจะยืนยันว่า “เขาเป็นเด็กดีนะ ผมยังไม่รู้เลยนะเนี่ย”

ส่วนเรื่องคดีในฐานะพ่อจะช่วยดูอย่างไร นายสันติย้ำว่า ไม่รู้ พอดีหลายวันนี้งานเยอะ ตนอยู่ต่างจังหวัด แต่เดี๋ยวจะถามลูกดู ก่อนย้ำว่าต้องเคารพกฎหมายอยู่แล้ว ถ้าหากเมาแล้วขับ และตำรวจช่วยหยุดให้ ก็ต้องขอบคุณตำรวจ

“นพ.ชลน่าน” ยันไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องทำตามกฎหมาย
ด้านเจ้ากระทรวงอย่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวสั้นๆ ถึงเรื่องนี้ว่า ยังไม่ทราบข่าวว่าเป็นลูกชาย รมช.สาธารณสุข เรื่องนี้มองได้ 2 มุม มุมบวกคือ ใช้วิกฤติเป็นแนวทางรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย เมาไม่ขับ ทุกคนต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความไม่ประมาท แต่ยืนยันไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องเป็นตามกฎหมาย


มูลนิธิเมาไม่ขับ เรียกร้องนายกฯ-ครม. ปมลูกชาย รมช.เมาขับ
ขณะที่มูลนิธิเมาไม่ขับออกแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวต่อสาธารณชน กรณีบุตรชายรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เมาแล้วขับและยังฝ่าฝืนการจับกุมของตำรวจ มูลนิธิฯ ขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลทุกท่าน นโยบายเมาไม่ขับเป็นนโยบายที่ทุกรัฐบาลที่ผ่านมายึดถือปฏิบัติ รัฐบาลชุดปัจจุบันก็ไม่มีข้อยกเว้น เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนท้องถนน ดังนั้น ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและรัฐมนตรีทุกคน ตลอดจนบุคคลในครอบครัวต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพราะถ้าบุคคลในคณะรัฐบาลยังไม่ยึดถือกฎหมาย จะไปบอกให้ประชาชนเคารพกฎหมายได้อย่างไร

มาดูอัตราโทษกรณีเมาแล้วขับตามกฎหมายใหม่ คือ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2565 ได้เพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำกรณีเมาแล้วขับ โดยกำหนดบทลงโทษดังนี้ 1.ทำผิดครั้งแรก จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท 2.ทำผิดซ้ำข้อหาเมาแล้วขับ ภายใน 2 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000-100,000 บาท พร้อมถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบขับขี่ และ 3.เมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ เสียชีวิต โทษสูงสุด 10 ปี ปรับ 200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”