ให้ประกันตัว “จักรภพ” นัดพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.

กองปราบฯ 28 มี.ค. – ตำรวจกองปราบฯ อนุญาตประกันตัว “จักรภพ เพ็ญแข” วางหลักทรัพย์ข้อหาละ 200,000 บาท นัดหมายพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.นี้


นายจักรภพ เพ็ญแข ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังสอบปากคำแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันในชั้นสอบสวน กำหนดหลักทรัพย์เป็นเงิน 200,000 บาทต่อคดี โดยไม่มีเงื่อนไข แต่จะต้องมารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนครั้งต่อไปในวันที่ 22 และ 23 เมษายนนี้

ภายหลังการประกันตัวใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง นายจักรภพ ได้ลงมาทำความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ตั้งอยู่บริเวณโถงชั้นล่าง กองบังคับการปราบปราม จากนั้นจึงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน


นายจักรภพ กล่าวว่า ตนเองออกจากประเทศไทยไปเมื่อปี 2552 เป็นเวลา 15 ปี จึงตัดสินใจกลับมาสู้คดีที่ยังเหลืออีก 2 คดี และเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ซึ่งขอชื่นชมพนักงานสอบสวนที่อธิบายขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถสู้คดีได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม

นายจักรภพ ระบุว่า เวลา 15 ปีที่ผ่านมา ตนเองคิดถึงเมืองไทยทุกวัน พ่อแม่ก็เสียชีวิตระหว่างที่ตนเองหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ที่ระหกระเหินลี้ภัยไปอยู่ 5 ประเทศ เป็นประเทศที่เข้าใจและเห็นใจในการต่อสู้ของตนเอง แต่ก็อยู่อย่างมีมารยาท ไม่ให้ประเทศนั้นอึดอัด หรือได้รับความเดือดร้อนในภายหลัง แต่ก็ติดตามข่าวสารประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา ลำบากกายไม่เท่าไหร่ แต่มีความลำบากใจมากกว่า เวลาผ่านไปทำให้ตนเองคิดอะไรได้เยอะ รู้สึกเสียดายเวลาที่จะรับใช้ประเทศชาติ จากนี้ไปตั้งใจว่าจะทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ รับใช้ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นบทบาทใดก็ตาม จะไม่มาสร้างความวุ่นวายอะไรอีก

นายจักรภพ กล่าวว่า การทำการเมืองก็เป็นวิถีทางหนึ่งที่ตนเองสามารถช่วยทำประโยชน์ได้ ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ทำให้เห็นว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปมาก การเมืองภาพใหญ่ในระบอบประชาธิปไตยเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น การที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล ทำให้เพิ่มความมั่นใจว่า บรรยากาศต่างๆ เป็นไปในทางที่ดีขึ้น


ส่วนกระแสข่าวที่มีการดีลกัน จึงทำให้ได้กลับประเทศไทยนั้น ยอมรับว่ามีการพูดคุย แต่ไม่ได้เป็นการเจรจาเพื่อแลกกับอะไรบางอย่าง มีการพูดคุยว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะหาจุดร่วมเพื่อทำอะไรให้ดีขึ้น พร้อมยอมรับว่า ก่อนตัดสินใจกลับประเทศไทย มีการพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร แต่ไม่ถึงขั้นปรึกษา ซึ่งนายทักษิณได้บอกกับตนเองว่า อะไรหลายๆ อย่างในประเทศไทยเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น

นายจักรภพ กล่าวอีกว่า อีกสิ่งหนึ่งที่ตนเองอยากทำ คือ เสนอตัวกลางช่วยเหลือบุคคลที่ลี้ภัยทางการเมือง โดยดูจากความยากง่ายของคดี ช่วยเหลือผู้ที่มีคดีง่ายก่อน ส่วนกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนั ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ไปสำหรับตนเอง หลังจากนี้สิ่งแรกที่จะทำก็คือ จะไปกราบร่างคุณแม่ที่ยังไม่ได้ฌาปนกิจ ซึ่งเก็บไว้ที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน และไปกราบคุณพ่อที่ฌาปนกิจแล้วที่บ้านน้องสาว จากนั้นจะไปสักการะศาลหลักเมืองต่อ

สำหรับนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางออกจากประเทศไทยในปี 2552 โดยก่อนหน้านั้นเมื่อ 29 สิงหาคม 2550 นายจักรภพ ได้กล่าวบรรยายเรื่อง ประชาธิปไตยกับระบบอุปถัมภ์ ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) จากนั้นถูกแจ้งข้อกล่าวหาคดีหมิ่นประมาทสถาบันฯ ซึ่งต่อมาอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2554

จากนั้นวันที่ 22 พ.ค.57 มีรัฐประหารในประเทศไทย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ออกคำสั่งที่ 49/2557 เรียกให้นายจักรภพไปรายงานตัว แต่นายจักรภพ มิได้ไปตามคำสั่งดังกล่าว ศาลทหารจึงออกหมายจับข้อหาฝ่าฝืนการไปรายงานตัว

วันที่ 7 ธ.ค.60 ศาลอาญาได้ออกหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นอั้งยี่

ทั้งนี้ นายจักรภพ มีหมายจับในคดีอาญา 9 หมาย ปัจจุบันมีหมายจับเหลืออยู่ 1 คดี ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และข้อหาเป็นอั้งยี่ โดยศาลได้อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2560 มีอายุความ 20 ปี.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก