“จักรภพ เพ็ญแข” ถึงกองปราบฯ รายงานตัวตามหมายจับ

กองปราบฯ 28 มี.ค. – “จักรภพ เพ็ญแข” ถึงกองปราบฯ รายงานตัวตามหมายจับคดีครอบครองอาวุธปืน -อั้งยี่ เมื่อปี 2560 ด้านทนายความเตรียมหลักทรัพย์ 2-3 แสนบาทต่อคดี ไว้ยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวน


พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามคุมตัวนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มายังกองบังคับการปราบปราม เพื่อสอบปากคำ ในคดีตามหมายจับของศาลอาญา ที่ลงวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2560 ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นอั้งยี่ หลังพบความเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามจำนวนมากซุกในบ่อน้ำพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจากการตรวจสอบอาวุธที่ยึดได้พบมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์คดีทางการเมือง เมื่อปี 2557 เช่น ชิ้นส่วน หรือซีเรียลนัมเบอร์ของอาวุธ

หลังนำตัวมาถึงกองบังคับการปราบปราม ได้หลบเลี่ยงสื่อมวลชนโดยขับรถรถตู้ไปจอดที่บริเวณด้านหลัง ระหว่างอาคารกองบังคับการปราบปราม และอาคารจอดรถ ก่อนพาขึ้นลิฟต์อาคารจอดรถขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งมีทางเชื่อมเข้าสู่อาคารกองบังคับการปราบปราม


นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความ เปิดเผยว่า นายจักรภพ เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับ 2 หมาย ซึ่งนายจักรภพให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ได้เตรียมหลักทรัพย์ 2-3 แสนบาทต่อคดี มาเพื่อเตรียมยื่นประกันในชั้นสอบสวน

ส่วนคำถามที่ว่ามีการดีลกันก่อนที่จะมามอบตัวครั้งนี้หรือไม่ ทนายความ ระบุว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เพราะตนมีหน้าที่มาดำเนินการทางด้านกฎหมายให้กับนายจักรภพ เท่านั้น

ด้านน้องสาว และผู้ช่วยของนายจักรภพ เปิดเผยว่า นายจักรภพ เดินทางมาจากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยบอกว่าอยากกลับมาเพื่อทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ซึ่งรู้สึกดีใจที่ได้พบกัน หลังจากไม่ได้เจอกันมา 15 ปี โดยมั่นใจว่ากลับมาคราวนี้จะได้รับความยุติธรรม เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ เพราะก่อนหน้านี้ที่หลบหนีไป เพราะไม่มั่นใจในรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร


หลังสอบสวนแล้วเสร็จ จะมีอยู่ 2 แนวทาง คือ ให้ประกันในชั้นสอบสวน หรือส่งไปขออำนาจศาลฝากขัง ซึ่งจะมีสิทธิ์ยื่นขอประกันปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาลได้

ส่วนบรรยากาศที่กองบังคับการปราบปรามมีสื่อมวลชนจำนวนมากมารอทำข่าว อีกทั้งยังมีกลุ่มผู้สนับสนุนมารอให้กำลังใจกันตั้งแต่เช้า สำหรับนายจักรภพ เคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ปี 2551 และเคยดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปี 2546 – 2548. -419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ