นายกฯ ดันร่าง พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ เข้าสภาไม่เกิน ก.ค.นี้

เชียงใหม่ 16 มี.ค. – นายกฯ สวมชุดชาติพันธุ์ลีซู เปิดงานกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมท่องเที่ยววิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ยันรัฐบาลให้ความสำคัญความเสมอภาคเท่าเทียม ดันร่าง พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ เข้าสภาฯ ไม่เกิน ก.ค.นี้ ขณะที่วันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.) ยังปฏิบัติภารกิจที่เชียงใหม่และลำพูน


เมื่อเวลา 19.30 น. วันนี้ (16 มี.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สวมชุดชาติพันธุ์ลีซู พร้อมสะพายย่าม เป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวกิจกรรมวิถีชีวิตทางสายไหมชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองลีซู ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา อบจ.เชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่

โดยนายกรัฐมนตรี ได้ชมการแสดงต้อนรับจากชนเผ่าพื้นเมืองลีซู และกล่าวเปิดงานว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวกิจกรรมวิถีชีวิตทางสายไหมชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองลีซู ในวันนี้ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ และมีความโดดเด่นทางด้านศิลปะ วัฒนธรรมประเพณีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในปัจจุบันรัฐบาลภายใต้การนำของตน กำลังอยู่ในช่วงการนำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ชาติพันธุ์ ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ในสมัยการประชุมหน้าต่อไปไม่เกินเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญและยอมรับความหลากหลายทางอัตลักษณ์ ความเสมอภาค ความเท่าเทียม และสิทธิพื้นฐานที่พี่น้องชาวลีซูจะได้รับ


การจัดงานในวันนี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อีกทั้งเป็นการผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเมืองแห่งเทศกาลที่สร้างมูลค่าและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ตนขอชื่นชมและแสดงความยินดีกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และคณะทำงานทุกฝ่ายที่ร่วมกันจัดงานนี้ได้อย่างเร็ว และขออวยพรให้การจัดงานในวันนี้เป็นไปด้วยดี ซึ่งบัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว ขอให้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวกิจกรรมวิถีชีวิตทางสายไหมชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองลีซู เป็นการทำกิจกรรมซึ่งทำให้ทุกท่านมีความสุข และขอใช้โอกาสนี้เปิดกิจกรรมนี้

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมถ่ายรูปและเซลฟีกับชนเผ่าพื้นเมืองลีซู ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางกลับที่พัก และวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.) นายกรัฐมนตรี ยังมีภารกิจที่ จ.เชียงใหม่ ต่อ.-316-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

เชียงรายพบสารหนูเกินมาตรฐานใน “น้ำกก” คาดจากเหมืองเมียนมา

สำนักงานสิ่งแวดล้อมฯ เชียงราย ได้รับร้องเรียนว่า “น้ำกก” มีสีขุ่น เมื่อนำไปตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานหลายเท่า กระทบสุขภาพประชาชน คาดมาจากเหมืองแร่ทองคำในเมียนมา ผู้ว่าฯ เชียงราย เรียกประชุมด่วน

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน