นายกฯ ลั่นปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง ต้องดีขึ้น

กาฬสินธุ์ 2 มี.ค. – นายกฯ ลั่นหมดเวลาแห่งการรอคอย ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งต้องดีขึ้นกว่านี้ ประกาศขจัดยาเสพติดให้หมดไปภายใน 4 ปี ไม่หยุดอัปเกรดบัตร ปชช.ใบเดียวรักษาทุกที่ หลังพบคนอีสานอายุเฉลี่ยน้อยกว่าภาคอื่น สะท้อนสาธารณสุขไม่ดีพอ ยันได้เงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอน


เมื่อเวลา 15.50 น. วันที่ 2 มี.ค. ที่พื้นที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยส้มป่อย ตำบลนาขาม อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รับฟังการบริหารจัดการน้ำเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำและใช้สำหรับการอุปโภค โดยนายกฯ สวมเสื้อภูไทผ้าฝ้ายสีกรมท่า เดินทักทายประชาชน และกล่าวกับประชาชนว่า หมดเวลาแห่งการรอคอยแล้ว ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งต้องดีขึ้นกว่านี้ เพื่อให้เกษตรกรทุกคนมีโอกาสปลูกพืชให้ได้ผลผลิตมากขึ้น มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น ไม่ใช่รอเพียงน้ำฝนจากฟ้ามากำหนดชะตา เหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น

ขณะเดียวกันมีชาวบ้านมาชูป้ายร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ข้อพิพาทแนวเขตระหว่างตำบลแจนแลนและตำบลบัวขาว โดยนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้รับเรื่องไว้


ต่อมาเวลา 17.00 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่แหลมพยอม บึงโพนทอง ตำบลแวง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ดูบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ซึ่งทางจังหวัดได้ขอสนับสนุนงบประมานในการขุดลอกลำห้วย เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง

จากนั้นนายกฯกล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับ โดยสอบถามชาวบ้านเป็นภาษาอีสาน ว่า สบายดีบ่พี่น้องชาวจังหวัดร้อยเอ็ด วันนี้ตนดีใจที่ได้มาพบปะกับพี่น้องเป็นครั้งที่ 3 ในชีวิต ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จังหวัดร้อยเอ็ดหรือสาเกตนคร เป็นเมืองที่มีศักยภาพสูง เป็นเมืองที่ต้องพึ่งเกษตรกรรมค่อนข้างเยอะ เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิชั้นดีที่สุดในโลกได้รับเครื่องหมายจีไอเป็นที่ต้องการของตลาด รัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนเรื่องของสายพันธุ์ข้าวให้ดี รวมถึงการเปิดตลาดใหม่ๆ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้ขายข้าวในราคาที่แพงขึ้นได้ และไม่ว่าจะเป็นเรื่องปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลงที่ราคาถูกลง เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้การสนับสนุน

นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ วันนี้ตนได้มาดูเรื่องปัญหาคลองส่งน้ำต่างๆที่มีความตื้นเขิน ก็มีการทำบ่อบำบัดเพื่อให้เป็นแหล่งน้ำที่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ เครือข่ายชลประทานทั้งหมดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่เป็นเหมือนเส้นเลือดของพ่อแม่พี่น้องทุกคน รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ดี วันนี้เราก็มากันพร้อมทั้ง สส. รวมถึงปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รมช.คมนาคม ซึ่งหากเราบริหารเรื่องชลประทานได้ เรื่องของการไม่ท่วมไม่แล้งก็จะดีมากสำหรับพี่น้องชาวร้อยเอ็ดทุกคน


“รัฐบาลขอเรียนตรงๆ ว่าไม่มีอะไรสำคัญกว่าเรื่องการไม่ท่วมไม่แล้ง ท่านจะมีน้ำใช้ตลอดหน้าฝน และน้ำจะไม่ท่วม ท่านก็จะสามารถปลูกพืชผลได้เป็น ส่วนหนึ่งของการเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้อง 3 เท่าตัวในระยะเวลา 4 ปี ที่เราเป็นรัฐบาล” นายกฯ ระบุ

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องการคมนาคมก็เป็นตัวสำคัญเมื่อ 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา รมว.คมนาคม และ รมช.คมนาคม ได้เดินทางมาดูเรื่องเครือข่ายถนนเชื่อมโยงทั้งทางอากาศ และทางบก เพื่อให้พี่น้องสามารถไปมาหาสู่ได้อย่างดีเพราะการขนส่งสินค้าต่างๆ ไปขายทั่วประเทศได้ด้วยความสะดวกสบายในราคาที่ถูกลง ก็เป็นเรื่องที่สำคัญซึ่งเราอยากให้มีการทำอย่างต่อเนื่อง

นายกฯ กล่าวถึงระบบสาธารณสุขด้วยว่า เมื่อเดือนที่แล้วที่จังหวัดร้อยเอ็ด เรื่องของการใช้ 30 บาทใบเดียวไปได้ทุกที่ก็เป็นจังหวัดนำร่อง 1 ใน 4 จังหวัด และจะขยายไปทั่วประเทศ การยกระดับ 30 บาทระบบสาธารณสุขทั้งประเทศจึงเป็นนโยบายสำคัญที่สุดของเรา เพราะชาวอีสานมีอายุเฉลี่ยน้อยกว่าประชากรทั่วประเทศ แสดงว่าการสาธารณสุขยังดีไม่พอ เราจึงมีการพัฒนายกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรครักษาได้ทุกที่ต่อไปอีก

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องใส่ใจให้เยอะ เพราะเราต้องเสียเวลาไปเข้าคิวคอยโดยใช้เวลานานมาก ไปถึงแล้วบางทีเราก็เดินได้ไปบอกว่าประวัติเราเป็นอะไรบ้าง แต่การยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค เมื่อเดินทางไปรักษาเราก็ต้องอธิบายให้หมอฟังว่าเราเป็นอะไรบ้าง แต่การยกระดับโครงการนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องรู้จักหมอ แต่หมอจะรู้จักกับพี่น้องทุกคนที่เดินทางไปหาเขา เขาจะรู้ประวัติการไม่สบายของท่าน ทำให้การรักษาท่านถึงจุดได้ดีกว่าที่เคยเป็น“ นายกฯ กล่าว

ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบ นายกฯ กล่าวว่า เป็นงานหลักของเราที่พยายามจะการจัดหนี้นอกระบบให้หมดสิ้นไป แต่ตัวเลขที่ออกมาก็ยังไม่ดีพอ พวกท่านที่ยังไม่เข้ามาลงทะเบียน เพราะกลัวอิทธิพลของเจ้าหนี้ใช่หรือไม่ ส่วนนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะดูแลพวกท่าน เพราะเขาเอาเปรียบดอกเบี้ยแพงเกินควร นอกจากนี้ ตนยืนยันว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดให้หมดภายใน 4 ปีนี้

“เราจะคืนลูกหลานของท่านสู่ครอบครัว รัฐบาลจะดูแลทุกท่านในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นราคาพืชผลทางการเกษตร ยาเสพติด การสาธารณสุข ทำเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้ง เราให้ความสำคัญทั้งหมด และพบกันอีก” นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายกฯ เดินทักทายประชาชน ถ่ายรูปและให้ประชาชนสวมกอดอย่างเป็นกันเอง​ ซึ่งระหว่างเดินมีประชาชนสอบถามถึงเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต​ 10,000 ​บาท​ ว่า​ยังได้ใช้หรือไม่​ ซึ่งนายกฯ ตอบหลับทันทีว่า​ “ได้ครับ​ ได้แน่นอนครับ​” จากนั้นมีนักเรียนจากวิทยาลัยการอาชีพโพนทอง​ จังหวัดร้อยเอ็ด​ มอบภาพวาดนายกรัฐมนตรี​ มีข้อความระบุว่า​ เรารักนายก​ฯ และภาพวาดพระพุทธรูป​ รวมไปถึง​มอบขนมที่ทำจากฝีมือนักเรียนของวิทยาลัยด้วย​

ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ.-313-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย