นายกฯ ลั่นปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง ต้องดีขึ้น

กาฬสินธุ์ 2 มี.ค. – นายกฯ ลั่นหมดเวลาแห่งการรอคอย ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งต้องดีขึ้นกว่านี้ ประกาศขจัดยาเสพติดให้หมดไปภายใน 4 ปี ไม่หยุดอัปเกรดบัตร ปชช.ใบเดียวรักษาทุกที่ หลังพบคนอีสานอายุเฉลี่ยน้อยกว่าภาคอื่น สะท้อนสาธารณสุขไม่ดีพอ ยันได้เงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอน


เมื่อเวลา 15.50 น. วันที่ 2 มี.ค. ที่พื้นที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยส้มป่อย ตำบลนาขาม อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รับฟังการบริหารจัดการน้ำเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำและใช้สำหรับการอุปโภค โดยนายกฯ สวมเสื้อภูไทผ้าฝ้ายสีกรมท่า เดินทักทายประชาชน และกล่าวกับประชาชนว่า หมดเวลาแห่งการรอคอยแล้ว ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งต้องดีขึ้นกว่านี้ เพื่อให้เกษตรกรทุกคนมีโอกาสปลูกพืชให้ได้ผลผลิตมากขึ้น มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น ไม่ใช่รอเพียงน้ำฝนจากฟ้ามากำหนดชะตา เหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น

ขณะเดียวกันมีชาวบ้านมาชูป้ายร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ข้อพิพาทแนวเขตระหว่างตำบลแจนแลนและตำบลบัวขาว โดยนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้รับเรื่องไว้


ต่อมาเวลา 17.00 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่แหลมพยอม บึงโพนทอง ตำบลแวง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ดูบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ซึ่งทางจังหวัดได้ขอสนับสนุนงบประมานในการขุดลอกลำห้วย เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง

จากนั้นนายกฯกล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับ โดยสอบถามชาวบ้านเป็นภาษาอีสาน ว่า สบายดีบ่พี่น้องชาวจังหวัดร้อยเอ็ด วันนี้ตนดีใจที่ได้มาพบปะกับพี่น้องเป็นครั้งที่ 3 ในชีวิต ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จังหวัดร้อยเอ็ดหรือสาเกตนคร เป็นเมืองที่มีศักยภาพสูง เป็นเมืองที่ต้องพึ่งเกษตรกรรมค่อนข้างเยอะ เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิชั้นดีที่สุดในโลกได้รับเครื่องหมายจีไอเป็นที่ต้องการของตลาด รัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนเรื่องของสายพันธุ์ข้าวให้ดี รวมถึงการเปิดตลาดใหม่ๆ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้ขายข้าวในราคาที่แพงขึ้นได้ และไม่ว่าจะเป็นเรื่องปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลงที่ราคาถูกลง เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้การสนับสนุน

นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ วันนี้ตนได้มาดูเรื่องปัญหาคลองส่งน้ำต่างๆที่มีความตื้นเขิน ก็มีการทำบ่อบำบัดเพื่อให้เป็นแหล่งน้ำที่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ เครือข่ายชลประทานทั้งหมดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่เป็นเหมือนเส้นเลือดของพ่อแม่พี่น้องทุกคน รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ดี วันนี้เราก็มากันพร้อมทั้ง สส. รวมถึงปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รมช.คมนาคม ซึ่งหากเราบริหารเรื่องชลประทานได้ เรื่องของการไม่ท่วมไม่แล้งก็จะดีมากสำหรับพี่น้องชาวร้อยเอ็ดทุกคน


“รัฐบาลขอเรียนตรงๆ ว่าไม่มีอะไรสำคัญกว่าเรื่องการไม่ท่วมไม่แล้ง ท่านจะมีน้ำใช้ตลอดหน้าฝน และน้ำจะไม่ท่วม ท่านก็จะสามารถปลูกพืชผลได้เป็น ส่วนหนึ่งของการเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้อง 3 เท่าตัวในระยะเวลา 4 ปี ที่เราเป็นรัฐบาล” นายกฯ ระบุ

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องการคมนาคมก็เป็นตัวสำคัญเมื่อ 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา รมว.คมนาคม และ รมช.คมนาคม ได้เดินทางมาดูเรื่องเครือข่ายถนนเชื่อมโยงทั้งทางอากาศ และทางบก เพื่อให้พี่น้องสามารถไปมาหาสู่ได้อย่างดีเพราะการขนส่งสินค้าต่างๆ ไปขายทั่วประเทศได้ด้วยความสะดวกสบายในราคาที่ถูกลง ก็เป็นเรื่องที่สำคัญซึ่งเราอยากให้มีการทำอย่างต่อเนื่อง

นายกฯ กล่าวถึงระบบสาธารณสุขด้วยว่า เมื่อเดือนที่แล้วที่จังหวัดร้อยเอ็ด เรื่องของการใช้ 30 บาทใบเดียวไปได้ทุกที่ก็เป็นจังหวัดนำร่อง 1 ใน 4 จังหวัด และจะขยายไปทั่วประเทศ การยกระดับ 30 บาทระบบสาธารณสุขทั้งประเทศจึงเป็นนโยบายสำคัญที่สุดของเรา เพราะชาวอีสานมีอายุเฉลี่ยน้อยกว่าประชากรทั่วประเทศ แสดงว่าการสาธารณสุขยังดีไม่พอ เราจึงมีการพัฒนายกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรครักษาได้ทุกที่ต่อไปอีก

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องใส่ใจให้เยอะ เพราะเราต้องเสียเวลาไปเข้าคิวคอยโดยใช้เวลานานมาก ไปถึงแล้วบางทีเราก็เดินได้ไปบอกว่าประวัติเราเป็นอะไรบ้าง แต่การยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค เมื่อเดินทางไปรักษาเราก็ต้องอธิบายให้หมอฟังว่าเราเป็นอะไรบ้าง แต่การยกระดับโครงการนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องรู้จักหมอ แต่หมอจะรู้จักกับพี่น้องทุกคนที่เดินทางไปหาเขา เขาจะรู้ประวัติการไม่สบายของท่าน ทำให้การรักษาท่านถึงจุดได้ดีกว่าที่เคยเป็น“ นายกฯ กล่าว

ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบ นายกฯ กล่าวว่า เป็นงานหลักของเราที่พยายามจะการจัดหนี้นอกระบบให้หมดสิ้นไป แต่ตัวเลขที่ออกมาก็ยังไม่ดีพอ พวกท่านที่ยังไม่เข้ามาลงทะเบียน เพราะกลัวอิทธิพลของเจ้าหนี้ใช่หรือไม่ ส่วนนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะดูแลพวกท่าน เพราะเขาเอาเปรียบดอกเบี้ยแพงเกินควร นอกจากนี้ ตนยืนยันว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดให้หมดภายใน 4 ปีนี้

“เราจะคืนลูกหลานของท่านสู่ครอบครัว รัฐบาลจะดูแลทุกท่านในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นราคาพืชผลทางการเกษตร ยาเสพติด การสาธารณสุข ทำเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้ง เราให้ความสำคัญทั้งหมด และพบกันอีก” นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายกฯ เดินทักทายประชาชน ถ่ายรูปและให้ประชาชนสวมกอดอย่างเป็นกันเอง​ ซึ่งระหว่างเดินมีประชาชนสอบถามถึงเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต​ 10,000 ​บาท​ ว่า​ยังได้ใช้หรือไม่​ ซึ่งนายกฯ ตอบหลับทันทีว่า​ “ได้ครับ​ ได้แน่นอนครับ​” จากนั้นมีนักเรียนจากวิทยาลัยการอาชีพโพนทอง​ จังหวัดร้อยเอ็ด​ มอบภาพวาดนายกรัฐมนตรี​ มีข้อความระบุว่า​ เรารักนายก​ฯ และภาพวาดพระพุทธรูป​ รวมไปถึง​มอบขนมที่ทำจากฝีมือนักเรียนของวิทยาลัยด้วย​

ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ.-313-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]