ภูเก็ต 29 ก.พ. – แพทย์หญิงถูกชายต่างชาติเตะ ขณะนั่งพักบนบันไดหน้าวิลลาหรูภูเก็ต เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง ตำรวจยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขณะผู้ก่อเหตุอ้างไม่ได้เตะ แค่สะดุดล้มแล้วเท้าไปโดนกลางหลัง
ที่ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต แพทย์หญิงธารดาว อายุ 26 ปี แพทย์เวชศาสตร์ปฏิบัติการ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย บิดา, แฟนหนุ่มชาวต่างชาติ และทนายความส่วนตัว เข้าพบ พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รองผกก.สอบสวน สภ.ถลาง หลังจากได้เข้าแจ้งความว่ามีชายชาวต่างชาติทำร้ายร่างกาย ขณะนั่งพักที่บันไดหน้าวิลลาหรู บริเวณชายหาดยามู ซึ่งเป็นชายหาดสาธารณะ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมนำหลักฐานใบตรวจร่างกายมามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อประกอบการทำสำนวนคดี
แพทย์หญิงธารดาว ให้สัมภาษณ์ก่อนพบพนักงานสอบสวนว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และไม่ควรจะมีคนไทยคนใดมาเจอเรื่องแบบหมออีก ส่วนที่ชาวต่างชาติจะมีการแจ้งความ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กรณีคุณพ่อโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ทุกอย่างคือความจริง ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนที่ชาวต่างชาติกล่าวอ้างว่า ลื่นหรือสะดุดล้ม ขอถามกลับผู้สื่อข่าวว่า หากลื่นล้มแล้วจะทำอย่างไร ก็ต้องขอโทษใช่ไหม
นอกจากนี้ แพทย์หญิงธารดาว กล่าวถึงกรณีทีคู่กรณีกล่าวคำเหยียด ว่าไม่ควรมีใครได้รับการเหยียด อีกอย่างเขาเป็นชาวต่างชาติที่มาอยู่ในประเทศไทย มาหากินกับคนไทย เปิดธุรกิจต่างๆ ในผืนแผ่นดินไทย คุณไม่ควรเหยียดใครว่าเป็นโลคอล เราควรอยู่กันอย่างสงบสุข ไม่ควรจะเหยียดกัน
ทางด้าน พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ในเรื่องนี้ทาง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้รับทราบเรื่อง และมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น เชื่อว่ามีเหตุเกิดขึ้นตามที่คุณหมอได้มาแจ้งความไว้ ในเรื่องนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน โดยในเรื่องของคดีต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนอีกเรื่อง คือ การปฏิบัติหน้าของตำรวจ ที่อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ว่าอยู่ฝั่งหนึ่งฝั่งใด แต่ความเป็นจริงการทำงานของตำรวจสายตรวจ เมื่อได้รับแจ้งเหตุก็ต้องเข้าไปตรวจสอบและแนะนำผู้เสียหายมายังสถานีตำรวจ เพื่อพบพนักงานสอบสวน ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าคุณหมอบุกรุกนั้น จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณนั้นเป็นที่สาธารณะ ไม่น่าจะมีเหตุบุกรุกเกิดขึ้น
วันนี้ช่วงสาย นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยนายปัณยา สำเภารัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าคลอก, เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบแนวเขตที่ดินบริเวณวิลลา ที่เกิดเหตุข้อพิพาทระหว่างนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกับแพทย์หญิงที่ได้นั่งพักบริเวณบันได ซึ่งพาดลงมาที่ชายหาดยามู จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของวิลลาดังกล่าวเคยนำชี้ขอออกโฉนด แต่ปัจจุบันยังคงเป็น นส.3ก. โดยแนวที่นำชี้ คือ กรณีของบันใด ซึ่งมีด้วยกัน 4 ขั้น โดยขั้นที่ 1 อยู่บนสุด และลดหลั่นกันมาจากขั้นที่ 2, 3 และ 4 จนถึงพื้นทรายพบว่า 3 ขั้นหลังรุกล้ำที่ดินสาธารณะแนวชายหาดทรายสาธารณะ
นายปัณยา สำเภารัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าคลอก กล่าวว่า เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ข้อสรุปว่า จะแจ้งความดำเนินคดี ว่ามีการสร้างบันใดเข้าไปในที่สาธารณะ เพราะบริเวณชายหาดยามูดังกล่าวทุกคนสามารถเข้าไปได้ ส่วนถนนที่ชาวบ้านใช้ขึ้นลงเป็นภาระจำยอม ซึ่งทางเจ้าของโครงการมีการทำเป็นอุโมงค์ต้นไผ่ เพื่อให้สามารถขึ้นลงชายหาดได้ปกติ และหากกรณีของแพทย์หญิงที่ถูกทำร้ายร่างกาย หากเดินไปตามเส้นทางภาระจำยอมก็ไม่ถือว่าเป็นการบุกรุกที่แต่อย่างใด รวมถึงหากไปนั่งอยู่บนบันไดที่ติดกับผืนทรายตามที่ได้รับทราบข้อมูลก็ไม่ถือว่าเป็นการบุกรุกเช่นกัน เพราะเป็นชายหาดสาธารณะ
ที่ผ่านมาจะมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวใช้เส้นทางดังกล่าวในการลงไปยังชายหาด แต่หากเป็นคนนอกอาจจะไม่ทราบว่ามีทางที่เป็นภาระจำยอมสามารถลงไป เพราะทางเข้าจะต้องผ่านป้อมยามของโครงการฯ
ขณะที่ทางฝั่งคู่กรณีที่เป็นชาวต่างชาติ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าไม่ได้ถีบหรือ เตะ คุณหมอ อย่างที่ถูกกล่าวหา แต่เป็นการสะดุดล้ม ตรงบันได ทำให้เท้าไปโดนหลังคุณหมอ และเจ้าตัวอยากบอกว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อยากให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ เพราะไมคิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ นอกจากนี้ยืนยันว่ามีคลิปวิดีโอ ว่าตนการสะดุดล้มจริงๆ ไม่ได้จงใจทำร้ายแต่อย่างได .-สำนักข่าวไทย