พบชายไต้หวันก่อเหตุขโมยรถชาวบ้าน ก่อนถูกยิงเสียชีวิต

26 ก.พ.- คดีฆ่าหมกศพ “ชายไต้หวัน” ข้างสนามบินสุวรรณภูมิ คาดฝีมือแก๊งเพื่อนร่วมชาติวางแผนก่อคดี พบประวัติผู้ตายมีหมายจับคดีลักทรัพย์เพียบ ล่าสุดขโมยรถยนต์มาจากพัทยา 


จากเหตุฆาตกรรม นายชิ โหมว เชียง ชาวไต้หวัน อายุ 43 ปี หมกศพไว้ในพื้นที่อาคารร้างข้างสนามบินสุวรรณภูมิ ริมถนนสุวรรณภูมิสาย 4 ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ เมื่อช่วงสายวานนี้ (25 ก.พ.) ตำรวจพบหลักฐานสำคัญเป็นกล้องวงจรปิดหลายจุด และเชื่อได้ว่าเป็นการวางแผนเข้ามาพบผู้เสียชีวิตเป็นการเฉพาะ จนมาพบรถยนต์สีแดง คันที่กล้องวงจรปิดของสนามบินจับภาพได้ ถูกนำมาจอดซ่อนอยู่ท้ายซอยใกล้เลียบมอเตอร์เวย์ ภายในรถพบรองเท้า น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ น้ำยาดับกลิ่น และน้ำยาต่างๆ

ล่าสุดวันนี้ (26 ก.พ.) ตำรวจพบความเชื่อมโยงว่า ผู้เสียชีวิตเคยก่อเหตุลักทรัพย์เป็นรถยนต์สีขาว มาจากพัทยา ในขณะที่ผู้เสียชีวิตและเพื่อนชายอีกคนหนึ่งกำลังช่วยกันรื้อค้นทรัพย์สินมีค่า โดยก่อนหน้านี้หญิงชาวไต้หวัน อายุ 33 ปี ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ว่า รถยนต์ที่จอดไว้ภายในบริเวณบ้านหายไป แต่เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่าปิดบ้านเงียบ คล้ายกับไม่มีคนอยู่


เหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุฆาตกรรมนายชิ โหมว เชียง เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตขโมยรถยนต์สีขาว มาจากพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งรถคันนี้ถูกใช้งานขับวนในพัทยา จนนำมาจอดทิ้งบริเวณ ถ.รัชดาภิเษก ช่วงเวลา 00.10 น. ของวันที่ 25 ก.พ. จากนั้นประมาณ 02.00 น. ผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่บ้านย่านลาดปลาเค้า เขตลาดพร้าว ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ และมีรายงานว่าเป็นบ้านของ น.ส.น้ำตาล อายุ 22 ปี หญิงไทยที่มีความสัมพันธ์กัน และช่วงเวลานี้เองเป็นช่วงเดียวกับที่กลุ่มผู้ก่อเหตุ 3 คน เดินทางมาถึงประเทศไทย โดยพบว่า เวลา 03.12 น. ผู้ก่อเหตุทั้งหมดนั่งแท็กซี่มาที่บ้านหลังนี้ 

หลังจากนั้นมีเสียงดังคล้ายปืนเกิดขึ้น 1 ครั้ง และอีกราวๆ 30 นาที ดังขึ้นอีก 1 ครั้ง กระทั่งเวลา 04.51 น. รถยนต์สีแดง ขับออกจากหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าคนขับคือ น.ส.น้ำตาล เนื่องจากพบหลักฐานว่า น.ส.น้ำตาล มาเช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้านนี้ ประกอบกับเพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่า น.ส.น้ำตาล อยู่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง จนวันเกิดเหตุ เห็นชายมีรอยสักเต็มตัวขี่รถเข้ามาที่บ้าน และเดินเข้าไปในบ้าน ผ่านไปสักพักก็มีเสียงคล้ายปืนดังขึ้น จึงเดินออกมาดู แต่ไม่เห็นความผิดปกติ มีเพียงชายต่างชาติเหมือนนักธุรกิจ ยืนคุยกัน 2 คน แต่ไม่มีท่าทีพิรุธแต่อย่างใด

ตรวจสอบพบรถยนต์สีแดงไปปรากฏอยู่ที่ย่านบางพลี ช่วงเวลา 07.30 น. ขับเข้าไปในซอย ห่างจากถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ราว 3 กิโลเมตร ใกล้อาคารกำจัดขยะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดนำศพมาทิ้ง โดยแวะซื้อสิ่งของที่บริเวณร้านสะดวกซื้อ ต่อมาเวลา 13.00 น. พบรถตู้ขับพากลุ่มผู้ต้องสงสัย ที่มีชายชาวไต้หวัน 4 คน และหญิงไทย 1 คน เดินทางออกประเทศทางด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ไปยังกัมพูชา ตำรวจจึงสันนิษฐานว่า ทั้ง 5 คนนี้ เข้ามาหาผู้เสียชีวิตโดยเฉพาะ


สำหรับผู้เสียชีวิต พบมีประวัติคดีอาชญากรรม ข้อหาปล้นและครอบครองอาวุธปืน ที่ไต้หวัน รถที่คาดว่าใช้ในการเคลื่อนย้ายศพ ถูกจอดทิ้งไว้ที่ท้ายซอยใกล้เลียบมอเตอร์เวย์ พบหลักฐาน เช่น น้ำยาทำความสะอาด ผ้าเปื้อนเลือด กล่องบรรจุปืน สอดคล้องกับการตรวจค้นบ้านต้องสงสัย ย่านลาดปลาเค้า ที่คาดว่าเป็นจุดฆาตกรรม และมีหญิงไทยเป็นเจ้าของ พบร่องรอยการใช้สารเคมีทำความสะอาดและทำลายหลักฐาน และพบยาเคตามีน 500 กรัม

คดีนี้ตำรวจชุดสืบสวนทำงานร่วมกัน ทั้งจากสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และตำรวจ สน.โคกคราม ซึ่งได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น การเข้า-ออกบ้านของผู้เสียชีวิต บุคคลที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอีกประมาณ 5 คน ที่มีการนำกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่มาด้วย รวมทั้งการได้ยินเสียงคล้ายปืนหลายนัด

ช่วงสาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีต่อเนื่อง และยืนยันว่า หญิงที่เช่าบ้านที่เกิดเหตุ เป็นแฟนสาวคนล่าสุดของผู้เสียชีวิต ตำรวจพบรถจักรยานยนต์สีแดงในที่เกิดเหตุ สอดคล้องกับภาพวงจรปิดที่พบก่อนหน้า จึงทำให้เชื่อว่า ผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่บ้านหลังนี้ ก่อนถูกยิงเสียชีวิต เร่งพิสูจน์ทราบชาวเอเชียถูกยิง พบศพในท้องที่ สภ.สุวรรณภูมิ.–สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ ที่อนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

สอบแล้ว 5 ปาก คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์

ผบช.ภ.2 เผย สอบแล้ว 5 ปาก พยานสำคัญ คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์ พร้อมไล่ไทม์ไลน์ เปิดผลชันสูตรเบื้องต้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งชิ้นเนื้อ สารคัดหลั่ง เลือด และเศษอาหารในกระเพาะตรวจแล็บ หาสาเหตุที่แท้จริง

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ