กรุงเทพฯ 22 ก.พ.-กรมอุตุฯ ประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ คาดปีนี้อุณหภูมิสูงสุดอาจแตะ 45 องศาเซลเซียส
นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค กรมอุตุนิยมวิทยาลงนามในประกาศว่า ประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูหนาวและเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 โดยเข้าเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดร้อนซึ่งในตอนกลางวันบริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนเกือบทั่วไปต่อเนื่อง อุณหภูมิสูงสุดมากกว่า 35 องศาเซลเซียส เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากรังสีดวงอาทิตย์เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับมีลมฝ่ายใต้พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ซึ่งเป็นรูปแบบลักษณะอากาศของฤดูร้อน อย่างไรก็ตามบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าจนถึงประมาณกลางเดือนมีนาคม และคาดว่า ฤดูร้อนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567
ทั้งนี้คาดการณ์ว่า ตลอดฤดูร้อนปี 2567 จะมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 36 -37 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับค่าปกติที่ 35.4 องศาเซลเซียส ปีนี้จึงสูงกว่าค่าปกติ 1 – 1.5 องศาเซลเซียส ตลอดจนสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยฤดูร้อนปี 2566 อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 35.8 องศาเซลเซียส
นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองตรวจและเฝ้าระวังสภาวะอากาศกล่าวว่า เดือนที่ร้อนจัดคือ เดือนมีนาคมถึงเมษายน หลายพื้นที่อุณหภูมิสูงถึง 43-44 องศาเซลเซียส ทั้งยังมีโอกาสที่จะทะลุถึง 45 องศาเซลเซียส สูงกว่าสถิติที่เคยบันทึกได้ 44.6 องศาเซลเซียสที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนในปี 2559 และที่จังหวัดตากในปี 2566
ในระยะนี้สภาวะเอลนีโญยังมีกำลังแรง แม้มีแนวโน้มอ่อนลง แต่ส่งผลให้อากาศแห้ง ประกอบกับคาดการณ์ว่า ในฤดูร้อนนี้ ปริมาณฝนจะน้อยกว่าค่าปกติร้อยละ 30 รวมถึงการกระจายของฝนไม่ดี จะส่งผลให้พื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทานมีความเสี่ยงที่น้ำอาจไม่เพียงพอต่อการอุปโภคและบริโภค รวมทั้งภาคเกษตรกรรม
ในฤดูร้อน จะยังมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศจีนตอนใต้และเวียดนามตอนบนเป็นระยะๆ เมื่อปะทะกับอากาศที่ร้อนจัด อาจมีพายุฤดูร้อนเกิดลมกระโชกแรงบางช่วงและอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง โดยอาจก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนผลผลิตทางการเกษตร
ช่วงที่อากาศร้อน ต้องระวังโรคที่มากับความร้อน โดยเฉพาะคนที่ทำงานกลางแจ้ง ยิ่งแดดแรงและอุณหภูมิสูงยิ่งมีความเสี่ยงต่อโรคลมแดดหรือ Heat Stroke เพิ่มขึ้นด้วย.- 512 – สำนักข่าวไทย