ปิดคดีสามีทำร้ายเผาอำพราง “น้องนุ่น”

21 ก.พ. – ปิดคดี “น้องนุ่น” หายตัวปริศนา สุดท้ายพบถูกสามีฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ก่อนอำพรางศพด้วยการนำไปเผาในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ทุกขั้นตอน ทุกเหตุการณ์ ทำต่อหน้าลูกน้อย วันนี้ตำรวจคุมตัวไปทำแผนฯ เจ้าตัวลั่นอยากขอโทษนุ่น และพร้อมชดใช้กรรมทุกอย่าง


ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมและเผาอำพรางศพ “น้องนุ่น” หลังจากนายศิริชัย หรือ ทอย รับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายน้องนุ่นจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนจะพาขึ้นรถกลับไปที่บ้าน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายศิริชัย หรือ ทอย อายุ 33 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ว่า น.ส.ชลลดา หรือ นุ่น ภรรยา อายุ 27 ปี หายตัวไป บริเวณถนนเลียบคลองประปา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 18 ก.พ. เวลาประมาณตี 3 ขณะที่แม่ของน้องนุ่นยังคงมีข้อสงสัยว่า การหายไปของลูกสาวมีความผิดปกติ


หลังจากนั้นตำรวจนำตัวนายศิริชัยไปสอบสวน และมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านติดตั้งกระจก เผยให้เห็นว่า นายทอย เป็นคนทำร้ายร่างกายน้องนุ่น และภาพจากกล้องวงจรปิดในหมู่บ้านที่มีรถของนายทอย กลับถึงบ้านประมาณตี 2 กว่า ของวันที่ 18 ก.พ. ในที่สุดนายทอย ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าน้องนุ่น เนื่องจากมีปากเสียงกันในรถ

หลังรับสารภาพ นายทอย ขอขมาแม่ของน้องนุ่น อ้างว่าไม่เคยคิดฆ่าน้องนุ่นเลย แต่เกิดจากความมึนเมา และความโมโหสะสมที่น้องนุ่นมักจะขุดเรื่องเก่ามาทะเลาะ และไม่เคยเห็นความดีของตน จนเกิดความกดดัน ซึ่งแน่นอนว่าผู้เป็นแม่คงไม่อาจให้อภัยได้

ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด นำตัวนายศิริชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งหมด 4 จุด จุดแรกคือ จุดที่ลงมือทำร้ายร่างกาย ในบ้านพักพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จุดที่ 2 ปั๊มที่ไปซื้อน้ำมัน ริมถนนแจ้งวัฒนะ จุดที่ 3 หน้าบริษัทกระจก ริมถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นจุดที่นายทอย ลงมือทำร้ายน้องนุ่นปางตาย และได้จอดรถข้างทางบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งสอดคล้องกับภาพจากกล้องวงจรปิด ในภาพจะเห็นวินาทีที่ทั้งคู่ลงจากรถ นายทอยไล่ทำร้ายน้องนุ่นแทบนับครั้งไม่ถ้วน และจังหวะที่พยายามลุกขึ้น นายทอยก็หยิบอิฐตัวหนอนมาทุบที่หัวของเธออีก ก่อนพาขึ้นรถขับกลับบ้าน และยังมีการทำร้ายร่างกายซ้ำ


จนเช้าวันต่อมา เมื่อพบว่าน้องนุ่นเสียชีวิต จึงนำร่างยัดใส่กระเป๋าวางบนเบาะซ้ายหลังรถออกจากบ้าน ขับไปแวะซื้อน้ำมันที่ปั๊มแถวถนนแจ้งวัฒนะ ก่อนขับมุ่งหน้าไปจุดสุดท้าย คือ จุดเผาอำพรางศพในสวนยาง พื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยนำศพใส่กระเป๋าขนาดใหญ่ และแกลลอนใส่น้ำมัน 2 ใบ จุดไฟเผา แล้วรอจนไฟดับ จึงได้หลบหนีไป ซึ่งตลอดการทำแผนฯ นายทอย พูดเพียงขอโทษสั้นๆ เท่านั้น

นอกจากความสูญเสียของผู้เป็นแม่ สิ่งหนึ่งที่สร้างความสะเทือนใจที่สุด คือ ตลอดเวลาของการทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งทำลายศพ มีลูกสาวตัวน้อย อายุเพียง 1 ขวบ 7 เดือน เห็นเหตุการณ์โดยตลอด ทำให้สังคมรุมประณามในการกระทำอันเลือดเย็นนี้ ทั้งในเฟซบุ๊กของนายศิริชัย และในสื่อโซเชียลต่างๆ

มากไปกว่านั้นยังมีข้อมูลสำคัญจากมิ้น เพื่อนสนิทของน้องนุ่น และเป็นอดีตหุ้นส่วนร้านอาหารกับนายทอย ได้นำแชทของนุ่นที่เคยทักขอความช่วยเหลือ เพราะถูกนายทอยทำร้ายร่างกาย เคยเอามือถือไปทุบทิ้ง รวมถึงพฤติกรรมการทำร้ายร่างกายแฟนสาวอีกหลายครั้ง ยิ่งตอกย้ำให้เกิดความสะเทือนใจมากยิ่งขึ้น

ข้อหาที่นายทอยได้รับ คือ เจตนาฆ่าผู้อื่น และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ ซึ่งเมื่อช่วงเย็นวันนี้ ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้นำตัวนายทอยไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ขณะที่การชันสูตรร่างของน้องนุ่น ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า ตอนที่นายทอยจุดไฟเผา น้องนุ่นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ โดยในขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาประมาณ 3 วัน จึงจะทราบผล

นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่พบเห็นกันมากขึ้น คงไม่มีใครตอบได้ว่า เหตุการณ์นี้จะสร้างบาดแผลทางจิตใจให้กับหนูน้อยได้มากขนาดไหน แต่คำถามที่ต้องการคำตอบโดยเร็วที่สุด คือ จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ความรุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน