แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มจีนเปิดประตูเครื่องบิน จ่อฝากขัง

เชียงใหม่ 8 ก.พ. – แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มจีนเปิดประตูเครื่องบินขณะกำลัง Take Off เตรียมคุมตัวฝากขังพรุ่งนี้ (9 ก.พ.) อ้างป่วยจิต เคยรักษากับนักบำบัดที่แคนาดามาก่อน


เมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) สนามบินเชียงใหม่ เกิดเรื่องวุ่น เพราะเครื่องการบินไทยที่จะบินกลับสุวรรณภูมิ มีหนุ่มจีนกระโดดมาเปิดประตูเครื่อง ทำให้เบาะสไลด์กาง เครื่องค้างกลางรันเวย์ ส่วนสาเหตุที่ทำแบบนี้ไม่รู้จะเรียกเพี้ยนได้หรือไม่ เพราะเขาบอกมีขบวนการใต้ดินจะลอบยิงขีปนาวุธให้เครื่องตก


เมื่อเวลา 21.57 น. วานนี้ (7 ก.พ.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Watcharapon Pethsurp ได้เช็กอินที่สนามบินเชียงใหม่ และโพสต์ภาพถ่ายภายในเครื่องบิน พร้อมเขียนข้อความ “เครื่องกำลังจะ Take Off แต่มีคน Panic พยายามจะเปิดประตูเครื่องบิน แล้วฉันจะถึงกรุงเทพกี่โมง” ก่อนที่เจ้าของโพสต์จะอัปเดตว่า ตำรวจได้มารวบผู้โดยสารต่างชาติรายดังกล่าวไปแล้ว

ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ananya Tiangtae โพสต์ทั้งภาพและคลิป พร้อมข้อความ “ระทึกกลางดึก ผู้โดยสารชาวจีนพุ่งตัวเปิดประตูเครื่องบิน ขณะเครื่องกำลังทะยานขึ้นฟ้า เรือยางเด้งออกจากประตู แอร์โฮสเตสลุกจากที่นั่งมาจับตัวผู้โดยสาร ยื้อกันไปมา ก่อนลมมหึมาพัดเข้ามาในเครื่องบิน นักบินจอดเครื่องบินกะทันหัน ผู้โดยสารฝรั่งอีกคนหายตกใจ ลุกมาช่วยจับตัวไว้ อลหม่านไปทั้งลำ กว่าช่างจะมายกเรือยางออกก็ 5 ทุ่มกว่า เดิมต้อง Take off 21.05 น. ทุกคนต้องกลับมาอาคารสนามบิน เจ้าหน้าที่พาชายจีนคลุ้มคลั่งออกจากเครื่องบิน ผู้โดยสารหลายสิบคนตกเครื่องที่บินต่อไปต่างประเทศ เครื่องบินจากต่างประเทศและในประเทศที่มาลงเชียงใหม่ ต้องไปจอดที่เวียดนามหรือลาวแทน บางส่วนเปลี่ยนลำใหม่บินกลับกรุงเทพฯ เกือบตี 1 บางส่วนรอกลับรุ่งขึ้น ส่วนเราตกค้างนอนเชียงใหม่อีกคืน กระเป๋าเดินทางติดแหง็กใต้ท้องเครื่อง กว่าจะได้คืนตี 1 กว่า เดินทางมาครบ 100 ประเทศ เพิ่งเจอเหตุการณ์ผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบินเพื่อเหินลงไป ถ้าเขาคลุ้มคลั่งเปิดประตูขณะเครื่องบินอยู่ที่ 30,000 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล อะไรจะเกิดขึ้น?

เช่นเดียวกับ เพจ HFlight.net ได้รายงานเรื่องราวดังกล่าว โดยระบุว่า เชียงใหม่เครื่องลงไม่ได้ตอนนี้ ภาพจาก Flightradar24 แสดงเที่ยวบินที่กำลังจะลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่ แต่ต้องบินวนรอ ก่อนที่เวลา 22.54 น. มีรายงานว่า เที่ยวบินสามารถใช้งานทางวิ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่ในการขึ้นลงได้ปกติแล้ว


สนามบินเชียงใหม่ไล่ไทม์ไลน์หนุ่มจีนพุ่งเปิดประตูเครื่อง
วันนี้ (8 ก.พ.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ออกมาชี้แจงแล้ว โดยนาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ไล่ไทม์ไลน์ให้ฟังว่า เมื่อเวลา 22.05 น. ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินเชียงใหม่ว่า เที่ยวบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG121 เส้นทางเชียงใหม่-สุวรรณภูมิ ทำการบินด้วยเครื่องแอร์บัส เอ 320 ขณะเครื่องอยู่ระหว่างเตรียมวิ่งขึ้น มีผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบิน ทำให้เบาะสไลด์กาง ส่งผลให้อากาศยานไม่สามารถทำการบินได้ และจอดค้างอยู่กลางรันเวย์ ส่งผลให้เที่ยวบินอื่นๆ ทำการขึ้น-ลงไม่ได้ชั่วขณะ

หลังรับแจ้งเหตุ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ประสานช่างอากาศยานของสายการบินไทย เข้าดำเนินการตัดเบาะสไลด์ออก ก่อนนำอากาศยานกลับเข้าหลุมจอด และสามารถเปิดใช้งานทางวิ่งได้ตามปกติในเวลา 22.50 น. และสามารถออกเดินทางได้ในเวลา 00.43 น.

ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยังยอมรับด้วยว่า มีเที่ยวบินได้รับผลกระทบทั้งหมด 13 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินวนรอขาเข้า จำนวน 8 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาออก 3 เที่ยวบิน และเที่ยวบิน Divert 2 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 2,296 คน

ส่วนเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย คณะกรรมการรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้หยิบยกกรณีนี้ขึ้นมาหารือในการประชุมร่วมกับผู้แทนจากสายการบิน ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติ และหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มจีนเปิดประตูเครื่องบินขณะกำลัง Take Off
ด้าน พ.ต.อ.มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับการ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ให้ข้อมูลว่า ได้แจ้ง 2 ข้อหา กับผู้โดยสารชายรายนี้ ที่มีดีกรีเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ คือ นายหว่อง ชาย เฮือง อายุ 40 ปี คนจีนสัญชาติแคนาดา โดย 2 ข้อหา คือ กระทำการให้อากาศยานอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคล ข้อหานี้มีโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 7 ปี ปรับ 10,000-140,000 บาท และเป็นผู้อยู่ในอากาศยานระหว่างการบิน ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้ควบคุมอากาศยาน หรือเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยาน ด้วยการเปิดประตูฉุกเฉินเครื่องบินโดยไม่มีเหตุอันควร ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยกับอากาศยาน หรือบุคคล หรือทรัพย์สินในอากาศยาน ข้อหานี้โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ยังพานายหว่อง ไปตรวจสารเสพติด เบื้องต้นไม่พบสารเสพติดในร่างกาย และความแปลกคือ นายหว่อง ตอบคำถามนักข่าวที่ถามว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ ว่ารู้สึกถูกติดตาม ซึ่งเป็นความทรงจำจากภารกิจลับที่เวียดนาม

ด้าน พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ น้อยสอน รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงไทม์ไลน์ของนายหว่อง ว่า เข้าไทยมาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากนั้นได้มาเที่ยวเชียงใหม่คนเดียว และเมื่อคืนขึ้นเครื่องจากเชียงใหม่จะไปสุวรรณภูมิ เพื่อกลับแคนาดา นายหว่องให้การกับพนักงานสอบสวนผ่านล่ามและตำรวจท่องเที่ยวว่า ไปเปิดประตูเครื่องบิน เพราะมีกลุ่มขบวนการใต้ดินติดตาม รู้สึกเป็นอันตราย รวมถึงบอกด้วยว่า หากเครื่อง Take Off จะถูกขีปนาวุธลอบยิงตก ทำให้จำเป็นต้องยับยั้งไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม นายหว่อง ยังอ้างว่าป่วย มีอาการทางจิต เคยรักษากับนักบำบัดที่แคนาดามาก่อน แต่ไม่มีหลักฐานอะไรมาแสดง

ฝากขังพรุ่งนี้-เล็งแจ้งข้อหาเพิ่ม
สำหรับนายหว่อง พรุ่งนี้ (9 ก.พ.) พนักงานสอบสวนจะนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดเชียงใหม่ และประสานการบินไทย ให้เข้าแจ้งความเพิ่มเติม หากพบความเสียหายเกิดขึ้นกับอากาศยาน รวมทั้งความเสียหายอื่นๆ ที่เกิดจากการกระทำของนายหว่อง แม้เหตุการณ์นี้การบินไทยบอกว่า เจ้าหน้าที่ช่างได้ตรวจสอบและแก้ไขตามมาตรฐานความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว และผู้โดยสาร นักบิน รวมถึงลูกเรือ ทุกคนปลอดภัยก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก