รวบแล้ว 1 แก๊งอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงานทิ้งมอเตอร์เวย์

สมุทรปราการ 2 ก.พ.- รวบแล้ว ‘ช่างกิต บางบ่อ’ หนึ่งในแก๊งอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน ทิ้งข้างทางเลียบมอเตอร์เวย์ที่แท้คนใกล้ตัว


ความคืบหน้าเหตุพบศพ หนุ่มโรงงาน อายุ 33 ปี ถูกมัดมือเท้าโยนทิ้งข้างทางมอเตอร์เวย์ ล่าสุดเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกันจับกุมตัวนายกิตติโชติ หรือ ‘ช่างกิต บางบ่อ’ อายุ 37 ปี อาชีพขับรถขนส่งและช่างซ่อมรถยนต์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ในข้อหา ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีหรือใช้อาวุธปืน, ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และโดยไม่มีใบอนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนภูธรภาค 2 สามารถจับกุมตัว นายกิตติโชติ ได้ที่ สถานบริการน้ำมันบางจาก ริมถนนบางนาตราด กม.15 ขาเข้า ขณะที่นายกิตติโชติ จอดนอนหลับอยู่ในรถกระบะตู้ทึบ บริเวณลานจอดรถภายในปั๊มน้ำมัน ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนำส่ง สภ.บางพลี สมุทรปราการ เพื่อลงบันทึกประจำวัน ก่อนคุมตัวไปสอบสวนขยายผลต่อที่ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 โดยขณะคุมตัวนายกิตติโชติ มีสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะถูกนำตัวขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ไป


จากการสอบสวนทราบว่า ในวันเกิดเหตุที่พบร่างผู้ตาย นายกิตติโชติ อยู่ในที่เกิดเหตุเป็นคนพาภรรยาผู้ตายเดินทางไปดูที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งบ้านนายกิตติโชติ ก็อยู่ไม่ไกลจากที่พบร่างผู้ตาย และจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ในคืนเกิดเหตุมีผู้ต้องหานั่งรถไปกัน 4 คน ก่อนจะอุ้มผู้ตายขึ้นรถที่ซอยจงศิริ พื้นที่บางพลี แล้วลงมือฆ่า ก่อนนำมาที่บ้านนายกิตติโชติ และให้ลูกน้องช่วยนำศพขึ้นรถไปกระบะตู้ทึบไปทิ้งที่เลียบมอเตอร์เวย์ ส่วนชนวนเหตุการลงมือเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวน จากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐาน นำรถที่ผู้ต้องหาใช้ อาวุธปืน และจะติดตามผู้ก่อเหตุที่เหลือมาดำเนินคดีทั้งหมดต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย