กรุงเทพฯ 29 ม.ค. – ภรรยาอธิบดีกรมการข้าวโพสต์เฟซบุ๊ก เป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัว โดยให้ลูกหยุดเรียน พักอยู่ที่บ้าน แต่ยืนยันจะต่อสู้ในคดีที่เกิดขึ้น เพราะตัวเองไม่ผิด จะไม่ไปให้สัมภาษณ์รายการไหนและขอบคุณทุกความห่วงใย
นางธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร ภรรยาของนายณัฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวโพสต์เฟซบุ๊กวันนี้ (29 ม.ค. 67) ระบุว่า ขอบคุณทุกๆกำลังใจ/ขอร้องอย่าให้ข่าวในทางบวกและลบกับทั้ง 2 ฝ่าย เจ้าหน้าที่ทำงานหนักเหนื่อยและนานแล้ว ฉันไม่ไปออกสื่อทุกๆ รายการเดาว่า ตอนนี้โทรศัพท์พวกเขาไม่น่าจะอยู่ที่เขาเพราะฉันเอาโทรศัพท์ของฉันให้เจ้าหน้าที่เท็กข้อมูลเชื่อมโยงถึงกันนั่นหมายถึงว่า (น่าจะทึ่งค่ะ) ข้อมูลอื่นๆ ที่มี กล้องวงจรบ้านเขาที่มีทั้งหมดรอบบ้านมันก็น่าจะสัมพันธ์กับของฉันที่มีให้เจ้าหน้าที่ไป (ฉันคิดว่าพอได้แล้วรอก่อน) เดี๋ยวผลก็ออกมา และคิดว่าใครๆ ที่ยังไม่เข้าใจข้อเท็จจริงของทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าคุณไม่แน่ใจอะไรคุณอย่าเพิ่งพูดเถอะค่ะกลัวว่า พวกคุณกำลังเป็นเหยื่อเสียเองกับฉันก็ไม่ต้องเชียร์ขนาดนี้ก็ได้ค่ะรอก่อน..ฉันไม่ผิด (ตัวเท่าช้าง)..ใครจะอยู่ฝ่ายใหนก็น่าต้องโดนฟ้อง ถ้ายังไม่หยุดฉันคงจะประกาศตั้งทนายในประเทศไทยทุกๆ จังหวัดฟ้องคนที่ดูหมิ่นฉัน หากชนะฉันจะไม่นำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองสักบาทพร้อมมอบเงินบริจาคทุกบาทมอบให้ผู้พิการยากไร้เข้าแต่ละจังหวัดนั้นๆไปเลยจร้าาาา
และที่สุดคือฉันกลัวความไม่ปลอดภัยกับตัวเองและครอบครัว ฝากสื่อและสังคมติดตามเรื่องความปลอดภัยของฉันและครอบครัวด้วยนะคะไม่คิดว่าเรื่องมันจะลุกลามบานปลายถึงขนาดนี้ วันนี้ตัดสินใจแล้วให้ลูกหยุดเรียนกลับมาอยู่บ้านแล้วค่ะ ทำไงได้ค่ะเลือดนักสู้มันติดเป็นสันดานฉีดทุกรูขุมขนลูกชาวนาไปแล้วค่ะแค่ได้เกิดในที่ๆไม่มีสงคราม. ภูมิใจที่ได้เกิดบนแผ่นดินนี้ ต่อให้ตายก็ไม่เสียดายชาติเกิด .ขอบคุณทุกๆความห่วงใย
“นางธัญญรัตน์” ซึ่งตอนนี้เป็นที่รู้จักในนาม “คุณนายอธิบดีกรมการข้าว” อายุ 49 ปี มีอาชีพหลักคือ ทำฟาร์มเลี้ยงไก่ที่จังหวัดลพบุรี รวมถึงมีธุรกิจอื่นๆ อีก
“นางธัญญรัตน์” ไม่ใช่บุคคลสาธารณะ ทำหน้าที่เป็นหลังบ้านของอธิบดีกรมการข้าวหรือคนใกล้ชิดเรียก “อธิบดีโจ” แต่ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินคดีต่อนายศรีสุวรรณ จรรยากับพวกฐานข่มขู่รีดไถเพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนสามีเนื่องจากนางธัญญรัตน์เป็นผู้ดูแลการเงินของครอบครัว ตลอดจนรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะอธิบดีกรมการข้าวได้ชี้แจงหลายครั้งแล้วว่าข้อร้องเรียนต่างๆ ไม่เป็นความจริง.- 512-สำนักข่าวไทย