สระแก้ว 20 ม.ค.-ผบช.ภ.2 แถลงผลตรวจสอบข้อเท็จจริง คลิปเสียงบังคับ “ลุงเปี๊ยก” รับสารภาพคดีฆ่า “ป้าบัวผัน” พบตำรวจ 2 นาย เข้าข่ายทำผิดวินัย และมีเพียง 1 นาย กระทำผิดอาญา ส่วนความผิด พ.ร.บ.อุ้มหาย พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ
ตามที่ตำรวจภูธรภาค 2 มีคำสั่งที่ 14/2567 ลงวันที่ 17 ม.ค.67 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีคลิปเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ มีการบังคับขู่เข็ญให้นายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก รับสารภาพในคดีฆาตกรรมนางสาวบัวผัน หรือป้ากบ โดยมี พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 เป็นประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วันนั้น
คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ จำนวน 2 นาย เข้าข่ายกระทำความผิดวินัยตำรวจ ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และมีเพียง 1 นาย กระทำผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและกระทำให้บุคค สูญหาย พ.ศ.2565 พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ตำรวจภูธรภาค 2 จะส่งสำนวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้พนักงานสอบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สืบสวนสอบสวน รวบรวบพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากพบว่ามีการกระทำผิด ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 หรือ กฎหมายอื่นใด จะได้กล่าวโทษดำเนินคดีกับตำรวจผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด
ส่วนการสอบสวนตำรวจทั้ง 2 เบื้องต้นได้ให้การปฏิเสธในการใช้ถุงดำคลุมลุงเปี๊ยก แต่ชุดคณะกรรมการสอบสวนเชื่อว่ามีหลักฐานเพียงพอชี้ได้ว่าตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ใช้ถุงคลุมลุงเปี๊ยกจริง
ส่วนข้อหา พ.ร.บ.การทรมาน ขณะนี้ลุงเปี๊ยกยังอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ หลังเข้ารับการรักษาโรคสุราเรื้อรัง ต้องรอประมาณ 7 วัน นับจากวันเข้ารับการรักษา พนักงานสอบสวนถึงจะเข้าไปสอบปากคำลุงเปี๊ยกเพิ่มเติมได้ และจะสามารถแจ้งดำเนินการเอาผิดตาม พ.ร.บ.การทรมาน กับตำรวจทั้งสองนาย
พล.ต.ท.สมประสงค์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในคดี 5 เยาวชนลูกตำรวจ ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ตำรวจ และ 5 สหวิชาชีพเข้าร่วม เป็นคณะกรรมการในการพิจารณาเอาผิดผู้ปกครองเยาวชนทั้ง 5 ราย โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบและสอบถามประชาชนว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างไรบ้าง เพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าว และได้เตือนผู้ปกครองเยาวชนทุกคนให้ช่วยกันดูแลบทหลานของท่าน มิให้ออกมาก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน โดยเฉพาะหลังเวลา 22.00 น. หากหลังจากนี้พบว่ามีเยาวชนออกนอกเกินเวลาดังกล่าว ก็จะเรียกผู้ปกครองมารับทราบข้อกล่าวหาหารปล่อยปละละเลย
ส่วนคดีของป้าบัวผัน พนักงานสอบสวนสามารถทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแยกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ กลุ่มลูกตำรวจ 5 คน มีคดีค้างเก่า 4 คดี ได้แก่ คดีทำร้ายร่างกาย , ล่วงละเมิดทางเพศ (นายโก๊ะ 4 คดี นายเชน 2 คดี) และกลุ่มที่สองคือ กลุ่มตังค์ไม่ออก 12 คน มีคดีค้างเก่า 2 คดี คือคดี ทำร้ายร่างกายจนถึงเสียชีวิต, คดีทำร้ายร่างกายและทำลายทรัพย์สิน (เผารถ)
เบื้องต้น ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ทำการกวาดล้างปิดเมือง ติดตามตัวกรมแก๊งตังค์ไม่ออก เพื่อทำการรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานในการติดตามตัวมาดำเนินการเอาผิด แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องมีผู้เข้ามาแจ้งความหรือร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงจะสามารถตรวจสอบและแจ้งข้อกล่าวหากลุ่มเยาวชนดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของตำรวจภูธรภาค 2 ว่าจะสามารถดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่กระทำความผิดได้ทุกราย.-414.-สำนักข่าวไทย