ระทึก! รถเก๋งไล่ชนแท็กซี่กลางถนนรัชดาฯ ก่อนซิ่งหนี

กรุงเทพฯ 15 ม.ค. – ถนนรัชดาฯ ระทึกกลางดึก รถเก๋งหรูไล่ชนแท็กซี่พังยับ ก่อนซิ่งหนี ล่าสุดคนขับรถเก๋งติดต่อตำรวจแล้ว เบื้องต้นอ้างว่าป่วย โดยจะนำหลักฐานการรักษามาแสดงในการเข้าพบตำรวจ บ่ายวันนี้ (15 ม.ค.)


คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้ถ่ายไว้และนำมาเผยแพร่ในโซเชียล พร้อมระบุข้อความ “เก๋งไล่ชนแท็กซี่ที่สตีทรัชดา น่ากลัวมาก”

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายยุทธพงศ์ คนขับแท็กซี่ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขับรถไปรับลูกค้าที่ห้างเอสพลานาด ถนนรัชดาภิเษก เมื่อถึงบริเวณหน้าโลตัส พระราม 9 ตนอยู่เลนขวาสุด กำลังจะเบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าไปรับผู้โดยสาร จู่ๆ มีรถเก๋งสีขาวขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนท้ายรถของตน ก่อนขับหลบหนีไปทางห้วยขวาง


รถเก๋งคันดังกล่าวยังไปเฉี่ยวชนรถแท็กซี่อีก 1 คัน ตนจึงรีบขับรถตามไป จนตามไปทันที่บริเวณหน้าห้างเดอะสตรีท รัชดา ตนจึงรีบปาดหน้าจอดขวางบริเวณเลนขวาสุด เพื่อสกัดไม่ให้รถเก๋งคันดังกล่าวหลบหนี แต่รถเก๋งถอยรถแล้วขับพุ่งชนรถของตนฝั่งที่นั่งผู้โดยสารด้านซ้ายและท้ายรถอีก 5 ครั้ง หลังเกิดเหตุจึงเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง

นายยุทธพงศ์ บอกว่า รู้สึกแย่มากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตลอด 30 ปี ที่ขับรถแท็กซี่ เคยถูกมอเตอร์ไซค์ชนแค่ครั้งเดียว ครั้งนี้ถือว่าหนักและแย่ที่สุด มองว่าคนขับรถเก๋งมีเจตนาตั้งใจจะหลบหนีและเชื่อว่าเมาแล้วขับแน่นอน เพราะไม่ลงมาดูเหตุการณ์เลย

สำหรับรถยนต์เก๋งคันก่อเหตุเป็นรถ Toyota Crown สีขาว หลังเกิดเหตุมีชาวบ้านแจ้งเบาะแสว่าถูกจอดทิ้งไว้ในซอยอินทามระ 26 มีร่องรอยการถูกชน และมีคราบสีเขียวของรถแท็กซี่ติดตัวรถด้วย แต่ไม่พบตัวคนขับหรือผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของ ตำรวจจึงย้ายรถคันดังกล่าวไปที่ สน.ห้วยขวาง


ชาวบ้าน บอกว่ามีคนขับมาจอดไว้ท้ายซอย ช่วง 4-5 ทุ่ม ชาวบ้านตะโกนบอกว่าจอดไม่ได้ แต่ชายคนขับตอบมาว่าขอจอดแป๊บเดียว ตอนนั้นมองไม่ชัดว่ารูปพรรณสัณฐานของคบขับเป็นอย่างไร เพราะเป็นกลางคืน จากนั้นคนขับเดินไปหน้าปากซอยแล้วหายไปเลย

สภาพรถเก๋งเสียหายอย่างหนักบริเวณกันชนหน้าทั้งสองฝั่งถูกชนจนไฟหน้าแตกสองข้าง บริเวณฝั่งผู้โดยสารเป็นรอยครูดยาว กระจกมองข้างซ้ายเสียหาย และปรากฏคราบสีเขียวของรถแท็กซี่ติดอยู่ ภายในรถยังมีกุญแจเสียบคา พบซองกับขวดน้ำ 2 ขวด บรรจุของเหลวสีเหลือง บริเวณพำนักเท้าที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าของเหลวดังกล่าวคืออะไร

จากการตรวจสอบพบว่าผู้ครอบครองรถเก๋งเป็นชายไทย อายุประมาณ 40 ปี แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผู้ครอบครองรถกับคนขับในวันเกิดเหตุเป็นคนเดียวกันหรือไม่ ตอนนี้เจ้าหน้าที่เรียกผู้ครอบครองรถมาให้ปากคำแล้ว เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ข้อหาชนแล้วหนี และทำให้เสียทรัพย์ ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเมาแล้วขับหรือไม่ ต้องรอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ก่อน

ล่าสุดคนขับรถเก๋งติดต่อเจ้าหน้าที่แล้ว เบื้องต้นอ้างว่าป่วย แต่ไม่ได้แจ้งว่าป่วยเป็นอะไร โดยจะนำหลักฐานการรักษามาแสดงในการเข้าพบตำรวจ บ่ายวันนี้ (15 ม.ค.) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี