“อนุทิน” นำทีมตรวจถนนข้าวสารวันที่ 2 พอใจเปิดผับถึงตี 4

กทม. 17 ธ.ค.-“อนุทิน” นำทีมฝ่ายปกครอง กทม. ตำรวจ ตรวจถนนข้าวสาร วันที่ 2 เปิดผับตี 4 พอใจทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ แง้มหากไร้ปัญหา ไม่มีความวุ่นวาย อาจขยายพื้นที่โซนนิ่ง

16 ธันวาคม 2566 เมื่อเวลา 23.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงหมาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบบดีกรมการปกครอง ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, ตำรวจ และกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบริเวณถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ภายหลังจากรัฐบาล ได้เปิดพื้นที่นำร่องขยายเวลาเปิดผับหรือสถานบันเทิง ถึงตี 4 ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยถนนข้าวสารอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนร้านที่จะเปิดได้ ต้องมีใบอนุญาต เท่านั้น


การลงพื้นที่ในวันนี้ นายอนุทิน ได้ตรวจบริเวณร้าน THE CLUB, BRICK BAR เป็นต้น ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้กำชับให้สถานประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขณะที่นักเที่ยว ต้องห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วขับขี่เด็ดขาด เพราะผิดกฎหมาย และ อาจเกิดความมึนเมา จนส่งผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สิน ทั้งของตนเอง และผู้อื่น ตลอดเส้นทางมีประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้ามาทักทายนายอนุทิน เป็นจำนวนมาก

นายอนุทิน เปิดเผยว่าภาพรวมวันนี้ ในพื้นที่ ดูดี ผู้ประกอบการอยู่ในระเบียบ ปฏิบัติตามกฎหมาย ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการยืนยันแล้วว่า ทุกร้านให้ความร่วมมือ นักท่องเที่ยว ก็ไม่มีปัญหาให้ต้องวิตก สอดคล้องกับนโยบายขอรัฐบาล ที่ต้องการเห็นความสงบเรียบร้อย


จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึง การเพิ่มจำนวนใบอนุญาต แก่สถานประกอบการ และขยายพื้นที่โซนนิ่ง นายอนุทิน ตอบว่า ที่เราเปิดตอนนี้ ต้องดูว่า มันอยู่ในระเบียบหรือไม่ อย่าลืมว่า อะไรที่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เราพร้อมสนับสนุน การเปิดสถานบริการถึงตี 4 มันก็ทำให้เงินหมุนเวียนมากขึ้น การจ้างงานเพิ่มมากขึ้น กระทั่งแกร๊บ หรือแท็กซี่ ก็มีรายได้เข้ามามากขึ้น นี่คือเจตนารมณ์ของรัฐบาล แต่มันก็ต้องอยู่ในกฎระเบียบ ถ้ามันอยู่ในจุดที่คุมได้ ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือดี เราก็พร้อมจะพิจารณาอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงเป้าหมายในการลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อย นายอนุทิน ตอบว่า เราไม่ได้จะมาจับผิดใคร เราไม่ได้มากดดันใคร แต่เราทำงานร่วมกัน ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กรุงเทพมหานคร ปปส. เราทำงานรวมกัน เพื่อสร้างความมั่นใจ ว่าต้องไม่มีของต้องห้ามทั้งยาเสพติด อาวุธร้ายแรง และ การปล่อยปละกฎหมาย ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ เรื่องแบบนี้ ต้องไม่มี

เมื่อถามถึงความกังวลในประเด็นเหตุร้ายอันเกิดจากนักเที่ยวเมาสุรา นายอนุทิน กล่าวว่า มันต้องช่วยกัน เพราะถ้าเมา มีเรื่อง มีคดี มันวุ่นวายแน่นอน ผู้ประกอบการ เขาบอกแล้ว ว่าจะเซฟตัวเอง เห็นพวกเมาแอ๋ เขาจะไม่ขายเหล้าให้ ส่วนเรื่องอาวุธ มันก็ต้องช่วยกันดูแล อย่างน้อย มันก็ช่วยเซฟ ชีวิต กันและกัน


“ผมมาอยู่ตรงนี้ ผมมาสร้างความมั่นใจว่าสถานที่ท่องเที่ยวของไทย มันมีความปลอดภัย ปิดตี 4 เราก็ยังดูแลได้ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ร่วมด้วยช่วยกันอยู่แล้ว เราเห็นเศรษฐกิจมันหมุนเวียน ขายของได้มากขึ้น มีรายได้ เพิ่มมากขึ้น อะไรทำได้ เราก็อยากทำ ซึ่งเท่าที่เห็น สถานการณ์ต่างๆ ที่นี่ ยังเรียบร้อยดี ผมจะได้มีข้อมูลไปนำเรียนในที่ประชุม ครม.ว่านโยบายที่ออกมามันเป็นอย่างไร มันเวิร์คนะ เรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ มันเป็นไปด้วยดี ส่วนภาพรวมในทุกพื้นที่ ต้องบอกว่า มันก็เพิ่ง 2 วันเอง ก็ต้องดูให้นานกว่านี้ ถ้าช่วยกัน มันก็ไปต่อได้ แต่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันระวัง ช่วยกันเตือน”.-118.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด