fbpx

เร่งสอบพยานคดีเด็ก 17 ปี ก่อนออกหมายเรียก “สมรักษ์”

ขอนแก่น 11 ธ.ค.- ตำรวจเร่งสอบปากคำพยานในคดีเด็กสาววัย 17 ปี ก่อนออกหมายเรียก “สมรักษ์ คำสิงห์” เข้าให้ปากคำ ด้านทนายชื่อดัง เผยหากทำผิดจริง จะโดนดำเนินคดีหลายข้อหาหนัก


ความคืบหน้า กรณีเด็กสาววัย 17 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ. เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีกับนายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักกีฬาทีมชาติ เหรียญทองโอลิมปิก ล่อลวงไปล่วงละเมิดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดขอนแก่น ล่าสุดทีมข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายสมรักษ์ เพื่อถามถึงข้อเท็จจริง โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเจอกับหญิงสาวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น เมื่อคืนวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเขามาขอถ่ายรูป ก่อนตามมาที่ห้องของตน เพื่อมาร่วมวงสังสรรค์ เมื่อมาถึงได้มีการถามอายุ เมื่อทราบว่า อายุ 17 ปี ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ก็ยอมรับ มีการกอดกันตามธรรมชาติ ถอดเสื้อผ้า และไม่ได้มีการซื้อขายอะไรกัน เพราะตนก็ไม่ได้มีเงินติดตัวมาในวันนั้น และมารู้อีกว่าน้องได้บอกยายว่าจะมาสอบ แต่ไม่ได้มีการสอบอะไร ตอนที่อยู่ในสถานบันเทิง ตนก็ไม่คิดว่าน้องจะอายุ 17 ปี เพราะน้องตัวใหญ่ ส่วนตัวยังมั่นใจในความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ข่มขืนใคร ดังนั้น ขอไม่ใช้คำว่าล่วงละเมิด ตอนนี้สภาพจิตใจแย่มาก ตัดพ้อชีวิตไม่เคยทำอะไรให้ใคร อยากอยู่เงียบๆ เลี้ยงไก่ชน ยอมรับว่าตัวเองก็เมา แต่ทางฝั่งผู้หญิงมาเกาะแกะตน ไม่รู้ว่าไปถึงขั้นนั้นได้ยังไง เพราะปกติก็ระวังตัวอยู่แล้ว การที่น้องออกมาแจ้งความ ส่วนตัวคิดว่าอาจเป็นการแบล็คเมล์ ขณะนี้ได้เตรียมตั้งทนายสู้คดีแล้ว

หลังเกิดเหตุ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังสายตรวจ สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วยนายอรรถพล ทิพย์ดารา ปลัดอำเภอเมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจค้นสถานบันเทิง ที่นายสมรักษ์ ได้เข้าไปใช้บริการ พบว่าภายในสถานบันเทิงยังคงเปิดให้บริการตามปกติ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจบัตรประชาชน รวมทั้งตรวจปัสสาวะ เพื่อหาสารเสพติดในร่างกายเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎกมายแต่อย่างใด โดยเมื่อคืนของวันที่ 9 ธ.ค. 66 นายสมรักษ์ ได้เข้ามาภายในสถานบันเทิงแห่งนี้ และได้นั่งโต๊ะที่อยู่หลังดีเจเป็นริมทางเดินเข้าร้าน และอยู่หน้ากล้องวงจรปิดจากข้อมูลของผู้ดูแลร้าน ทราบว่าตลอดเวลาที่สมรักษ์ อยู่ที่โต๊ะจะมีนักเที่ยวเดินเข้ามาขอถ่ายรูปและขอชนแก้ว จนถึงเวลาปิดบริการ ก่อนที่สมรักษ์จะเดินทางกลับออกจากร้านไป


ความคืบหน้าทางคดี หลังนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ถูกนายสมรักษ์ พาไปเพื่อการอนาจาร โดยตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับคำร้องทุกข์ไว้ และสอบปากคำเบื้องต้น ทำหนังสือส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย และยังได้เรียกสอบสวนพยานเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเพื่อนผู้เสียหาย และได้ประสานสหวิชาชีพ เข้าสอบปากคำผู้เสียหายอีกครั้ง สำหรับผู้เสียหาย ขณะนี้อยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดขอนแก่น ขณะเดียวกันตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ออกตรวจหาพยานเพิ่มเติม และภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐาน และเตรียมออกหมายเรียกนายสมรักษ์ เข้ามาให้ปากคำในกรณีดังกล่าว ด้วยเช่นกัน

ส่วนประเด็นที่สถานบันเทิง ปล่อยปะละเลยให้มีเด็กเยาวชน อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ หากตรวจสอบพบความผิด ก็สามารถแจ้งดำเนินคดีในข้อหา “ยินยอมหรือการปล่อยปละละเลยให้บุคคลอายุ ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้ามาใช้บริการและเปิดทำการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายบัญญัติ” กับสถานบันเดินดังกล่าวได้ ในส่วนของนายสมรักษ์ หากปรากฏหลักฐานแน่ชัด จะได้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

ด้านนายรณณรงค์ แก้วเพชร ทนายความชื่อดัง เปิดเผยว่ากรณีของนายสมรักษ์ หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง จะถูกดำเนินคดีในหลายข้อหา คือ 1. ข้อหา ตามมาตรา 319 ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 10 ปี ปรับเป็นเงินตั้งแต่ 40,000 -200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยที่บุคคลนั้นไม่อาจขัดขืนได้มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท


นอกจากนี้ยังมีกรณีการพาผู้เยาว์อายุ 1 5 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารแม้เด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ยินยอมก็ตามมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวว่าน้องอายุ และแม้ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศด้วยถึงผู้เสียหาย จะยินยอมหรือไม่ยินยอม แต่หากอายุยังไม่ถึง 18 ปี ติดคุกทุกราย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้