ตร.ยันมีหลักฐานเชื่อมโยงเอาผิดมือยิงครูเจี๊ยบ-น้องหยอด

กรุงเทพฯ 23 พ.ย. – ตร.สืบสวนนครบาลเร่งขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการสนับสนุน ช่วยเหลือกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุยิง “น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ” ส่วนคำให้การแม้ว่ายังปฎิเสธ ยืนยันมีหลักฐานเชื่อมโยงเอาผิดได้


ความคืบหน้าคดี คนร้าย 2 ราย ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง นายธนสรณ์ อายุ 19 ปี หรือ น้องหยอด นักเรียนมหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เสียชีวิต โดยเหตุการณ์นี้มี น.ส.ศิรดา หรือครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์จากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ถูกลูกหลงเสียชีวิตด้วย เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา

หลังก่อเหตุตำรวจใช้เวลาสืบสวนสอบสวน 11 วัน เปิดปฏิบัติการ ปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอด ติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุจับกุม ผู้ก่อเหตุได้รวม 8 คน ซึ่งมีลักษณะการก่อเหตุมีการวางแผนกันเป็น 10 คน อย่างเป็นขั้นตอน เหมือนเป็นองค์กรอาชญากรรม” มีกองทุนเพื่อไว้หาอุปกรณ์ก่อเหตุ กองทุนไว้ประกันตัว จ้างทนายมาต่อสู้คดี และที่เลวร้ายที่สุดคือเมื่อมีคนถูกจับได้ พอถึงชั้นเบิกความก็จะตามพรรคพวกมานั่งแห่ฟังการไต่สวนของชุดสืบสวน เอาไปพัฒนารูปแบบการก่อเหตุไม่ให้โดนจับได้อีก


ล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการศูนย์สืบสวนสอบสวนนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าทางคดี ว่าเดิมทีคดีนี้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ มีการออกหมายจับเบื้องต้น 5 ราย ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น 2 ราย ยังจับกุมไม่ได้, ข้อหาร่วมกันสมคบ ซ่องโจร 3 ราย และในจำนวนนี้ มีหมายจับค้างเก่า 1 ราย ในคดียิงนักศึกษาอุเทนถวายหน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท้องที่ สน.ปทุมวัน ซึ่งมีความเชื่อมโยงในคดีน้องหยอด ซึ่งได้ดำเนินการส่งตัวให้ตำรวจ สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีแล้ว ส่วนเมื่อวาน เปิดปฏิบัติการทำให้มีการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้รวม แล้ว 8 คน และมีอีก 1 คนที่มีอาการช็อก รักษาตัวที่ รพ.นั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างการควบคุมตัวส่งดำเนินคดี ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ส่วนการสอบปากคำผู้เกี่ยวกันทั้งหมด แม้เบื้องต้น จะไม่มีใครยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิง แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานยืนยันว่าทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุดังกล่าวอย่างแน่นอน เช่น สีที่พบบริเวณหญ้าในพื้นที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา กับกระป๋องสีที่ค้นเจออยู่ในเซฟเฮาส์ย่านวงศ์สว่าง เชื่อมโยงกัน ฟันธงได้ว่าเขามีการเปลี่ยนสีรถด้วยกันพ่นสเปรย์ นอกจากนี้ยังพบว่า 1 ในผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในเซฟเฮาส์ พบว่าเกี่ยวข้อง ร่วมกันก่อเหตุ ในคดียิงถล่มกลางงานแต่งในพื้นที่ สน.สุทธิสาร เมื่อ เดือนกันยายน 2565 พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะผ่านมาแล้ว แต่หากพบความผิดปกติ เช่น สีเสื้อ สีรองเท้า พี่คนต่างจังหวัดไม่ใช้ ไม่ใส่กัน ก็ขอให้แจ้งข้อมูลเบาะแสมาได้ผ่านช่องทางเพจ IDMB สืบสวนนครบาลได้

ส่วนการสืบสวน ของเจ้าหน้าที่ที่พบว่าการก่อเหตุ มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม มีรูปแบบการก่อเหตุที่รุนแรง เรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งให้มีการทลายทั้งขบวนการ จึงมีการเปิดปฎิบัติการล่า กลุ่มผู้ก่อเหตุวานนี้ ซึ่งจากข้อมูลกลุ่ม นศ.ที่ก่อเหตุ มักเป็นคนที่ถูกไล่ออกไปแล้ว หรือเรียนไม่จบ จึงเรียกว่า “ผี” ไม่ควรเรียกว่าเป็นรุ่นพี่ และการที่ศิษย์ปัจจุบัน หรือรุ่นน้อง ให้ผีมาควบคุมองค์กร ก็เลยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นมา ยืนยันผู้ร่วมขบวนการไม่หมดเพียงแค่ 7-8 คน ที่จับกุมได้ ยังมีมากกว่านี้ และเชื่อว่าทุกคนมีส่วนรู้ร่วมเห็นด้วยกันทั้งหมดเพราะจากที่ปรากฏ พบว่าหลังเกิดเหตุมีการแสดงความยินดีกัน ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างยิ่ง รวมทั้งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เชื่อมโยง ถึงการระดมทุนมาช่วยเหลือกลุ่มผู้ก่อเหตุ ทั้งเรื่องเงินประกัน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ครอบคลุมทั้งหมด โดยขอเวลาให้ตำรวจทำงานอย่างละเอียดรอบคอบที่จะนำตัวกลุ่มขบวนการเหล่านี้มาดำเนินคดี แต่บางข้อมูลต้องสงวนเอาไว้ก่อนเป็นความลับ เพื่อที่จะสามารถทลายขบวนการเหล่านี้ได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ ขอวอนสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมว่า ขณะนี้โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว การใช้ความคิดแบบในอดีตที่มองว่าเด็กและเยาวชนเหล่านี้เป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องให้โอกาสพวกเขาไปเรียนหนังสือ อย่าให้เขาเสียอนาคตเพราะเพียงแค่กระทำความผิด มันไม่สามารถนำมาใช้ในโลกปัจจุบันได้แล้ว เพราะรูปแบบการกระทำความผิดเริ่มรุนแรงมากขึ้นเกินกว่าจะรับได้. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”