16 พ.ย. – ทางการเมียนมายังไม่อนุมัติ 41 คนไทย ออกจากเชียงตุง เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล ขณะที่กองกำลังผาเมืองประชุมปรับแผน หลังเฝ้ารอตลอดทั้งวัน โดยคนไทยยังมีความหวังจะได้เดินทางกลับ
ช่วงเย็นที่ผ่านมา (16 พ.ย.) พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ประชุมช่วงเย็นที่ผ่านมา เพื่อติดตามความคืบหน้าการส่งตัว 41 คนไทยกลับประเทศ หลังตลอดทั้งวันเร่งช่วย มีรายงานว่าจะส่งตัวคนไทยออกเดินทางจาก จ.เชียงตุง มา จ.ท่าขี้เหล็ก แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกเดินทาง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะไม่ได้ออกเดินทางในวันนี้แล้ว ประกอบกับมีรายงานว่าหลัง 18.00 น. จะเป็นช่วงเคอร์ฟิวในเชียงตุง ไม่อนุญาตให้มีการเดินทางใดๆ
ล่าสุดตัวแทนจากมูลนิธิเอ็มมานูเอล ที่คอยประสานงานอยู่ในเชียงตุง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสื่อมวลชนว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติคำสั่งให้ 41 คนไทยออกเดินทาง แต่เบื้องต้นทุกคนปลอดภัยดี มีจิตใจเข้มแข็ง และรอความหวังว่าจะได้กลับประเทศไทย
ทั้งนี้ การที่เจ้าหน้าที่เมียนมานำ 3 คนไทยไปสอบสวนช่วงบ่าย น่าจะเป็นเพียงการตรวจสอบในเบื้องต้นว่าตรงกับข้อมูลที่ทางการได้รับมาหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่เหตุผลที่ยังไม่ให้เดินทางกลับ
สำหรับ 41 คนไทย เป็นชาย 23 คน และหญิง 18 คน ที่หลบหนีจากสถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่เมืองเล่าก์ก่าย และเมืองหนานเติ้ง ส่งผลให้คนไทยที่เดินทางไปทำงานในพื้นที่ได้รับผลกระทบและเกิดความไม่ปลอดภัย ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวมีคนไทยประมาณ 287 คน แบ่งเป็นพื้นที่เมืองเล่าก์ก่าย 246 คน และพื้นที่เมืองหนานเติ้ง จำนวน 41 คน
กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพบก และกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงมูลนิธิเอ็มมานูเอล ได้ร่วมประสานงานกับทหารเมียนมา ผ่านกลไกความร่วมมือคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เบื้องต้นมีการเตรียมพร้อมรับคนไทยที่จะมาจากเชียงตุง มายังท่าขี้เหล็ก และจะเดินทางกลับผ่านด่านชายแดนแม่สายแห่งที่ 2 ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 3 จัดเตรียมพื้นที่คัดกรองและตรวจสอบบุคคล ไว้ที่ค่ายพญาเม็งราย โดยในวันนี้หลังญาติของคนไทยที่ทราบข่าวว่าจะได้รับการปล่อยตัวมารอรับลูก ยังมีความหวัง และขอขอบคุณกองทัพที่ช่วยประสานงาน
รองประธานมูลนิธิเอ็มมานูเอล เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากครอบครัว 41 คนไทย ว่าถูกหลอกไปทำงานเล่าก์ก่าย จะใช้วิธีชวนเข้าไปทำงาน โดยหลอกว่าจะได้รับค่าตอบแทนที่สูง ลักษณะงานเป็นการตอบแชท จึงหลงเชื่อ หลังจากตกลงจะไปทำงานได้มีการส่งตั๋วเครื่องบินมาให้ พร้อมออกเงินค่าทำพาสปอร์ต จากนั้นเมื่อเดินทางไปถึงจะมีนายหน้ามารับตัวไปที่เล่าก์ก่าย และเมื่อไปถึงพบว่าไม่ได้ทำงานอย่างที่ตกลงไว้ ถูกบังคับให้ต้มตุ๋นคนไทย หากไม่ทำจะถูกทำร้ายร่างกาย กักขัง งดอาหาร รุนแรงสุดถึงขั้นเสียชีวิต แม้จะโทรมาขอให้ทางบ้านที่เมืองไทยส่งเงินไปไถ่ตัวก็ไม่ได้กลับอยู่ดี
สำหรับคนไทยกลุ่มดังกล่าวถูงหลอกไปทำงานในพื้นที่เล่าก์ก่าย และเมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จึงใช้โอกาสหลบหนีมายังหนานเติ้ง และติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานและมูลนิธิฯ.-สำนักข่าวไทย