กรุงเทพฯ 16 พ.ย. – ผู้บังคับการศูนย์สืบนครบาล เรียกประชุมชุดสืบ วางแนวทางเร่งติดตามตัวคนร้ายก่อเหตุฆ่าหนุ่มไต้หวัน วัย 47 ปี ล่าสุดมีรายงานว่า ตำรวจพบภาพ 2 ผู้ต้องสงสัยแล้ว เป็นชาวผิวสีเกี่ยวข้องชายไต้หวัน แต่จะเกี่ยวข้องกับการตายหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมสั่ง ตม. บล็อกเส้นทางการหลบหนี
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมตำรวจฝ่ายสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 สน.บางนา รวมถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว เพื่อร่วมกันคลี่คลายคดีและวางมาตรการสืบสวนสอบสวนติดตามคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุฆาตกรรมนายชู เชียง เฉิน อายุ 47 ปี ชาวไต้หวัน ที่เสียชีวิตภายในโรงแรมย่านอุดมสุข
การประชุมในวันนี้ มีการประชุมผ่านระบบ VIDO CONFERENCE เพื่อรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปยัง พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งการประชุมเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 15.00 น. ใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวนของนครบาล 5 ประมาณ 6 นาย ได้เดินทางออกจากห้องประชุม โดยมีท่าทีเร่งรีบนำเอกสารบางอย่างออกจาก สน.ไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่การประชุมในห้องประชุมบริเวณชั้น 2 ยังคงดำเนินการต่อไปอย่างเคร่งเครียด
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้นำพยานวัตถุของผู้ตายในที่เกิดเหตุ มาทำการตรวจสอบที่สถานีตำรวจนครบาลบางนา ประกอบด้วย ตู้เซฟของโรงแรม จำนวน 2 ตู้ ซึ่งคาดว่าภายในน่าจะมีทรัพย์สินสำคัญของผู้ตายอยู่ เนื่องจากมีรอยนิ้วมือเปื้อนเลือดติดอยู่บริเวณตู้เซฟ 1 ตู้ กระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ 1 ใบ ถังน้ำสีขาวขนาดเล็กเปื้อนเลือด 1 ใบ ถังน้ำมีฝาปิด 1 ใบ กระเป๋าหนังสีดำ 1 ใบ กระเป๋าใส่ของกลางรวม ๆ ภายในมีม้วนอะลูมิเนียมฟอยล์สำหรับห่ออาหาร 3 ม้วน เตารีดไฟฟ้า 3 เครื่อง และซองวัตถุพยานอีก 2 ซอง เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง
ภายหลังการประชุมนานร่วม 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า การตายของชาวไต้หวันรายนี้ผิดธรรมชาติ มีการจับมัดมือผู้ตายด้วยเทปกาวและนำมือไพล่หลัง แต่สาเหตุการเสียชีวิตจะเกิดจากอะไรนั้น ต้องรอแพทย์นิติเวชเป็นผู้ให้คำตอบ ยอมรับว่าการตายครั้งนี้ผิดธรรมชาติ อีกทั้งผู้ตายเป็นชาวต่างชาติ จึงมีความอ่อนไหวและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขณะนี้ได้แจ้งไปยังสถานกงสุลถึงสาเหตุการเสียชีวิตของชายคนดังกล่าวแล้ว เพื่อแจ้งญาติของผู้ตายต่อไป
จากการสืบสวนพบว่า มีกลุ่มชาวต่างชาติผิวสี 2 คน และชายชาวเอเชียยังไม่ทราบเชื้อชาติ 1 คน เข้ามาเกี่ยวข้องพัวพันกับผู้ตาย แต่จะเกี่ยวข้องพัวพันเรื่องอะไร ขณะนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นวันนี้ได้มีการประชุมแบ่งหน้าที่การทำงาน เพื่อความชัดเจนและให้คดีเดินหน้าอย่างรวดเร็ว ระหว่างสืบนครบาล สืบนครบาล 5 และสืบบางนา รวมถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
ส่วนกรณีที่มีกระแสว่า ผู้ตายมีส่วนพัวพันกับคดีค้ามนุษย์และคดีฉ้อโกงในบ้านเกิดนั้น พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุว่า เป็นคดีเก่าที่ผู้ตายได้รับโทษมาแล้ว แต่จะเป็นสาเหตุของการฆาตกรรมหรือไม่ ทางตำรวจไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งเลย โดยขณะนี้มีการลงพื้นที่เก็บภาพรายละเอียดในที่เกิดเหตุ รวมถึงลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตั้งแต่ผู้ตายลงจากเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ว่ามีการไปพบปะพูดคุยกับใครบ้าง ใครเกี่ยวข้องกับผู้ตายบ้าง และผู้ตายเดินทางไปไหนบ้างจนถึงที่พัก
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ช่วงค่ำของวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีหญิงสาวชาวไทย 2 คน เดินทางมาพบกับผู้ตายที่โรงแรมด้วย แต่จะเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ ขอให้ตำรวจทำงานก่อน นอกจากนี้ ยังได้แบ่งงานให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าไปดำเนินการตรวจสอบว่า ผู้ตายเข้ามาในเมืองไทยด้วยวัตถุประสงค์อะไร เนื่องจากผู้ตายเดินทางเข้าไทยมาแล้วรวม 4 ครั้ง แต่การมาแต่ละครั้งใช้เวลาพักเพียงไม่กี่วัน ก่อนจะเดินทางกลับ ซึ่งต้องสืบให้ได้ว่า ผู้ตายมาทำอะไรในประเทศไทย และในวันพรุ่งนี้ (17 พ.ย.) จะมีการประชุมสรุปความคืบหน้าประจำวันอีกครั้ง ส่วนจะเป็นเวลาใด ขึ้นอยู่กับการทำงานของตำรวจ. -สำนักข่าวไทย