ขอนแก่น 10 พ.ย. – ย่าของเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่อ้างถูกคนขับรถตู้โดยสารมอมยาข่มขืนระหว่างทางไปหาพ่อแม่ในพื้นที่เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ยกมือไหว้ขอโทษคนขับรถตู้ หลังรู้หลานตัวเองกุเรื่อง
หลังผลสอบเด็กหญิงวัย 13 ปี ต่อหน้าสหวิชาชีพเมื่อวานนี้ (9 พ.ย.) ระบุว่าไม่มีเหตุการณ์มอมยาข่มขืนเกิดขึ้นบนรถตู้โดยสาร เมื่อวันที่ 1-2 ตุลาคมที่ผ่านมา ต้นทาง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ปลายทางเขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ สอดคล้องกับปากคำพยานที่ให้การว่าเป็นคนลงรถคนสุดท้าย โดยเด็กหญิงวัย 13 ปี ลงไปก่อน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นโดยที่พยานไม่เห็น
ล่าสุดเมื่อช่วงสายวันนี้ (10 พ.ย.) ทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.แวงน้อย ไปพบกับย่าวัย 63 ปี ของเด็กหญิง 13 ปี เพื่อแจ้งข่าวและสอบถามข้อมูล ย่าของเด็กหญิง 13 ปี บอกว่าเมื่อวานนี้ตำรวจก็มาสอบปากคำ ยังยืนคำให้การเดิมตามคำบอกเล่าของหลานสาว ยังไม่มีใครบอกผลการสอบสวนล่าสุดที่หลานสาวสารภาพต่อหน้าสหวิชาชีพว่า น้าเดช คนขับรถตู้ ไม่ได้ก่อเหตุตามที่บอกกับย่าก่อนหน้านี้ หากเป็นเช่นนั้นจริงอยากจะขอโทษคนขับรถตู้ที่ได้รับผลกระทบ ยืนยันไม่มีเจตนาร้ายหรือคิดปรักปรำ แต่เพราะความเป็นห่วงหลานสาว เล่าให้ฟังอย่างไรก็สื่อสารออกไปอย่างนั้น อีกทั้งอาการของหลานก็ผิดปกติตั้งแต่กลับมาจากกรุงเทพฯ ตนเลี้ยงมากับมือตั้งแต่เด็กๆ นอนบนเตียงเดียวกันจนถึงทุกวันนี้ ไม่เคยพบว่ามีความผิดปกติทางจิตใจหรือทางกาย เช่นเดียวกับพี่ชายที่อยู่ ม.4 ขาไปเดินทางก่อน 1 วัน ขากลับเดินทางมาพร้อมกัน ก็พลอยมีอาการทางจิตไปด้วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งคู่เล่นเกม ติดมือถือเหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่ไม่ถึงขั้นมีปัญหาจนส่งผลกระทบต่อกิจวัตรประจำวันอื่นๆ ญาติฝ่ายพ่อและแม่ก็ไม่มีใครมีอาการลักษณะนี้
ทีมข่าวพูดคุยกับชาวบ้านหลายคนยืนยันตรงกันว่าก่อนหน้านี้เด็กทั้ง 2 คนดูปกติ ไม่เที่ยวเตร่ เถลไถล เลิกเรียนกลับบ้าน ไม่ถึงกับเก็บตัว เล่นกับเพื่อนๆ ดูร่าเริงปกติ กระทั่งมีปัญหาหลังกลับจากกรุงเทพฯ
ทีมข่าวโทรศัพท์หาน้าเดช คนขับรถตู้ เมื่อทราบผลการสอบสวนล่าสุด บอกว่ารู้สึกดีใจ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ แต่ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ด้านพ่อของเด็ก ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปติดต่อเช่นกัน แต่ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์ เบื้องต้นจะนำเด็กหญิง 13 ปี เข้าสู่กระบวนการรักษาทางจิตเวชต่อไป ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น จะแถลงข่าวความคืบหน้าของคดีนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย