“ปานปรีย์” ชี้ “แลนด์บริดจ์” จุดยุทธศาสตร์ใหม่ของไทย

กรุงเทพ 3 พ.ย. – “ปานปรีย์” ชูทูตเศรษฐกิจ “หัวหอก” สร้างโอกาสให้ประเทศ พร้อมระบุการทำโครงการ “แลนด์บริดจ์” จะเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของไทยในการแข่งขันเวทีโลก ขณะที่ผู้ว่าการ ธปท. ชี้การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับฮามาส คือ ความเสี่ยงใหม่ของเศรษฐกิจโลก


นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปาฐกถา : Thailand’s New Growth Path 2024 บริบทใหม่ของประเทศไทยในเวทีโลก ในงานสัมมนา Thailand Next Move 2024 “The Next Wealth and Sustainability” เปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่ความมั่งคั่งยั่งยืน โดยกล่าวว่า การทูตเศรษฐกิจขับเคลื่อนประเทศไปสู่ “New Growth Path” บทบาทและเส้นทางของไทยขึ้นอยู่กับบริบทของโลก หลายขั้วอำนาจแข่งขันกันทั้งด้าน geo-politics geo-economy และ geo-technology รวมไปถึงการแบ่งขั้วของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย การวางจุดยืนของไทยท่ามกลางความขัดแย้งและบริบทเศรษฐกิจโลกแบ่งขั้ว สำคัญที่สุดไทยไม่ได้เป็นผู้ขัดแย้งหรือส่วนหนึ่งของความขัดแย้งใด ๆ และดำเนินความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ อย่างมีดุลยภาพ แต่ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์สามารถปะทุและยกระดับไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียได้ทุกเมื่อการวางจุดยืนที่ไม่โน้มเอียงไปทางใดทางหนึ่ง จำเป็นต้องมีจังหวะสำหรับการบริหารจัดการสถานการณ์และเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ต้องเร่งสร้างเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวใหม่และศักยภาพใหม่ให้เป็นที่ประจักษ์ทั่วโลก พร้อมย้ำว่า ประเทศไทยไม่ใช่แค่ destination จุดหมายปลายทางด้านการค้าและการลงทุนเท่านั้น แต่เป็นจุดสำคัญในการเชื่อมโยงการขนส่งไปทั่วโลก

นายปานปรีย์ กล่าวว่า New Growth Path ของเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ต้องมี 3 มิติ และภาคการเงินการธนาคารมีบทบาทอย่างมากในการส่งเสริมทั้ง 3 มิติ


  1. Green Growth การเข้าถึงบริการการเงินและแหล่งเงินทุนที่จำเป็น สำหรับการปรับกระบวนการผลิตสินค้าและบริการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  2. Innovation-driven Growth การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ
  3. Community-based Growth การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SMEs และเศรษฐกิจชุมชน
    โดยรัฐบาลจะนำประเทศไทยสู่ New Growth Path โดยดำเนินการทูตเศรษฐกิจที่มุ่งเชื่อมโยงพันธมิตรทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ภาครัฐ เอกชน และภาคการเงินการธนาคารจะมีบทบาทสำคัญ ในการสนับสนุนให้ประเทศเพื่อนบ้านของไทยเดินต่อไปได้ เพื่อส่งเสริมการเติบโตร่วมกัน พร้อมกับการแก้ปัญหาร่วมของภูมิภาคซึ่งรัฐบาลใช้การทูตเศรษฐกิจเชิงรุกเป็น “หัวหอก” ของการทูตยุคใหม่ ในการแสวงหาโอกาสทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัลการพัฒนานวัตกรรม การพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่และการส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ

นายปานปรีย์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะเร่งเจรจา FTA กับประเทศเศรษฐกิจสำคัญเพื่อขยายตลาดส่งออกของไทย และทำงานอย่างใกล้ชิดกับหุ้นส่วนภายใต้กรอบ IPEF หรือ อินโดแปซิฟิกฟอรั่ม เพื่อเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานให้แข็งแกร่ง เพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุน โดยโครงการ “แลนด์บริดจ์” เชื่อมฝั่งอ่าวไทยกับทะเลอันดามัน ที่ จ.ชุมพร-จ.ระนอง จะเป็นแม่เหล็กใหม่ของไทย ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนแปลงหรือลดความรุนแรงด้านภูมิรัฐศาสตร์ให้ประเทศต่าง ๆ กลับมามุ่งเน้นเรื่องการค้าขายบนพื้นฐานของความเป็นธรรม และมีไทยเป็นจุดเชื่อมโยงการขนส่งที่สำคัญไปทั่วโลก ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้นำคณะผู้แทนจากภาครัฐและภาคเอกชนเยือนต่างประเทศแล้ว 9 ทริป รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ และจะเดินทางไปร่วมประชุม IPEF ระดับรัฐมนตรีในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน รวมถึงได้เดินทางไปที่จังหวัดสระแก้วเพื่อรับฟังความต้องการของผู้ประกอบการธุรกิจตามแนวชายแดน

นอกจากนี้การเยือนสหรัฐอเมริกาของนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเพื่อร่วมประชุม APEC ซึ่งให้ความสำคัญกับประเด็น Sustainable Finance ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ รัฐบาลจะมุ่งส่งเสริมกลไกการเงินสีเขียวผ่านการออกพันธบัตร เพื่อความยั่งยืนและเชิญชวนให้นักลงทุนจากต่างชาติร่วมลงทุนใน Sustainability Linked Bonds ที่รัฐบาลวางแผนออกเพิ่มเติมเพื่อระดมทุนประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีหน้าซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการพบหารือกับบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ของต่างประเทศ เพื่อเชิญชวนและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและผู้มีทักษะสูงให้เข้ามาลงทุนและทำงานในประเทศไทย รวมถึงการจัดกำหนดการให้ภาคเอกชนไทยได้พบปะหารือกับหน่วยงานและภาคเอกชนของต่างประเทศคู่ขนานกันไป ทั้งนี้รัฐบาลจะขับเคลื่อนการทูตเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการปรึกษาหารือกับทุกภาคส่วนของไทย เพื่อให้การต่างประเทศสอดคล้องกับนโยบายภายในประเทศ เพื่อยกระดับความกินดีอยู่ดีของพี่น้องคนไทย พร้อมกับนำไทยกลับมาอยู่ในจอเรดาร์ของการเมืองและเศรษฐกิจโลกอย่างภาคภูมิ และได้รับความเชื่อมั่นจากนานาชาติ

กระทรวงการต่างประเทศพร้อมจะทำงานร่วมกับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ ภายใต้กลไก “ทีมประเทศไทย”กระทรวงฯ เชิญทูตไทยทั่วโลกมาประชุมที่กรุงเทพฯ เพื่อระดมสมองและวางแนวทางขับเคลื่อนงานด้านการต่างประเทศร่วมกับทุกภาคส่วนและเครือข่ายของประเทศไทย เพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยที่เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนซึ่งก้าวต่อไปของไทยต้องมีความครบเครื่อง จุดยืน ความยืดหยุ่น ความพร้อมที่จะผงาดขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง และต้องสร้างภูมิต้านทานเพื่อเตรียมรับมือกับความผันผวนต่าง ๆ ภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมมือกันเพื่อพลิกฟื้นความเจริญรุ่งเรืองกลับมาสู่ประเทศไทย


นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาในหัวข้อปรับโหมดนโยบายการเงินสู่เศรษฐกิจยั่งยืน Towards a more resilient future ว่า ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยที่คาดไม่ถึง หรือประเมินลำบาก จะทำให้เกิดแรงกระแทกหรือผลข้างเคียงต่อเศรษฐกิจที่แรง ดังนั้น จึงจำเป็นที่เศรษฐกิจต้องปรับโหมดในการดูแลหลายมิติ โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่มี resiliency หรือความยืดหยุ่นเพื่อรองรับแรงกระแทกได้ ทั้งนี้ องค์ประกอบของเศรษฐกิจที่มี resiliency ไม่ใช่แค่เสถียรภาพ แต่มีความหมายกว้างกว่านั้น มีองค์ประกอบเรื่องความทนทานภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลง มีความยืดหยุ่น ถ้ามีเหตุการณ์คาดไม่ถึงสามารถปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้ มีลักษณะที่ล้มแล้วลุกขึ้นได้เร็ว เป็นต้น

ผู้ว่าการ ธปท.ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์ของโลกเปลี่ยนไปมาก โดยความเสี่ยงเพิ่มสูง ซึ่งความเสี่ยงที่สูงสำหรับเหตุการณ์ที่คุ้นชิน เช่น การเติบโตของจีนที่ลดลง หรือเศรษฐกิจโลกที่ปรับลดลง เราก็สามารถรับมือได้แต่ที่น่าห่วง คือ มีความเสี่ยงใหม่ที่ไม่คุ้นชิน ทำให้คาดการณ์ลำบากว่า ผลท้ายสุดจะเป็นอย่างไร บทเรียน 10-20 ปี ที่ดูออกยาก คือ ผลข้างเคียง ยกตัวอย่าง ความเสี่ยงที่สูงมาก เช่น สถานการณ์ในตะวันออกลาง อาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง จึงเป็นที่มาว่า เรื่องของเสถียรภาพ จะกลับมาเป็นพระเอก จากเดิมที่เราเน้นกระตุ้นเพื่อออกจากวิกฤตโควิด แต่ขณะนี้ บริบทเปลี่ยนแปลง เรื่องนี้ ต้องกลับมา ทั้งนี้ แนวทางการดูแลเศรษฐกิจที่เน้นเสถียรภาพนั้น สอดคล้องกับมุมมองของไอเอ็มเอฟ โดยเน้นเสถียรภาพ เช่น เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย เก็บลูกกระสุนการคลัง ดูแลเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน ปรับโครงสร้างรับกระแสโลกใหม่ โดยสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ คือ ดูแลให้เศรษฐกิจโตตามศักยภาพที่ 3-4% ต่อปี เงินเฟ้ออยู่ในเป้าหมาย 1-3% และ อย่าให้เกิดความไม่สมดุลการเงิน เป็นต้น ส่วนเสถียรภาพที่โอเคน้อยหน่อย คือ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ 91% เมื่อเปรียบเทียบจีดีพี แม้จะลดลงจากจุดสูงสุดที่ 94% แต่ก็ยังสูงมาก โดยเฉพาะในช่วงโควิด อย่างไรก็ดี ไม่ได้มีตัวเลขตายตัวว่าระดับเท่าไหร่เหมาะสม แต่ต่างประเทศอยากให้รักษาไว้ที่ระดับ 80% เศษ ฉะนั้นในมิตินี้ถือว่ายังมีปัญหาและจับตามอง ส่วนด้านการเปรีขเทียบในอดีต คือ ความอ่อนแอภาคการคลัง สะท้อนจากตัวเลขหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ถามว่าถ้าเปรียบเทียบกับต่างประเทศนั้น พบว่ามีหลายประเทศสูงกว่าเรา แต่หนี้ดังกล่าวเพิ่มมาอย่างเร็วจากก่อนโควิด โดยมีระดับ 62% ต่อจีดีพีนั้น สูงสุดกว่าที่เราเคยมีมา จึงเป็นตัวเลขที่ต้องใส่ใจ หรือชะล่าใจไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเราอยากมีเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ เราต้องสร้างโอกาส เพื่อให้มีการเติบโตแบบใหม่ที่ฐานจะกว้างมากขึ้น ถ้าโตแบบเดิม ๆ จะยิ่งลำบาก โดยตัวเลขฟ้องว่าจะโตลำบาก คือ 1 ใน 3 ของแรงงานไทยและอุตสาหกรรมอยู่ในโลกเก่า เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ยานยนต์ เป็นต้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย