fbpx

นายกฯ เผยในหลวงทรงรับผู้บาดเจ็บเหตุยิงกลางห้างไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

รพ.จุฬาลงกรณ์ 3 ต.ค. – นายกรัฐมนตรี เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุยิงกลางสยามพารากอน ระบุเหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น เผยทูตจีนขอบคุณความใส่ใจของรัฐบาลไทย ซาบซึ้งในหลวงทรงรับผู้บาดเจ็บไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ บอกไม่ยกเลิกงานพรุ่งนี้ที่พารากอน ระบุ “ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า”


เมื่อเวลา 21.05 น. วันนี้ (3 ต.ค.66) ภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุยิงที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน นานกว่า 40 นาที ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวที่นี่ 3 คน อาการหนัก 1 คน โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อาการปลอดภัย ถือเป็นเรื่องน่ายินดี แต่นักท่องเที่ยวอีกคนเข้ามาเที่ยวด้วยกันเสียชีวิต อีก 2 คน ยังไม่เจอตัว แต่ไม่เป็นอะไร ซึ่งขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตำรวจ กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อค้นหาตัวนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน และพามาเจอผู้บาดเจ็บที่เป็นเพื่อนร่วมทริป ซึ่งอาการปลอดภัยแล้ว แต่อยากเจอเพื่อน โดยทาง ททท.ได้ให้ล่ามอยู่ด้วยที่โรงพยาบาล 1 คน เพื่อช่วยเหลือในการติดต่อสื่อสาร และให้สบายใจขึ้น


นายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่า ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับท่านทูตจีน เพื่อรายงานสถานการณ์ทั้งหมด ซึ่งท่านทูตจีนได้ขอบคุณในความใส่ใจของรัฐบาลไทย อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงรับผู้บาดเจ็บทั้งหมดไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งท่านทูตจีนก็ซาบซึ้งใจ และขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้ take action ทันที ขั้นตอนต่อไปคือการหาตัวนักท่องเที่ยวอีก 2 คนให้ได้

ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนถูกนำตัวแยกกักไว้ ดูแลตามสิทธิของเยาวชน มีทั้งแพทย์และจิตแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ห่วงว่าจะกระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เราจะให้ความระมัดระวังสูงสุด ขณะที่สถานที่เกิดเหตุ ก็ได้ทำงานประสานพูดคุยกับตำรวจ ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามมาตรการที่เกิดขึ้น ทั้งการอพยพ การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนทั้งหมด หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก ส่วนการสร้างความเชื่อมั่นหลังจากนี้ก็ทำอยู่ตลอด เพราะเราให้ความสำคัญสูงสุด


เมื่อถามว่า ได้มีการกำชับทาง ผบ.ตร. และโรงพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจากทุกคนทราบหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของโรงพยาบาลก็ดูแลคนไข้อย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ติดตามค้นหาเพื่อนร่วมทริปของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ล่าสุดได้พบตัวทั้ง 2 คนแล้ว ซึ่งปลอดภัยดี โดยมีผู้ช่วยกงสุลจีนประจำประเทศไทย เข้ามารายงานสถานการณ์ต่อนายกรัฐมนตรีที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์แล้ว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยด้วยว่า ทางการมาเลเซียได้ต่อสายพูดคุย สอบถามถึงสถานการณ์ เนื่องจากมีบุคคลในราชวงศ์ของมาเลเซียเดินทางมาที่ประเทศไทย ซึ่งได้ยืนยันว่า สถานการณ์คลี่คลายและปลอดภัยแล้ว

ขณะที่ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า กำหนดการในวันพรุ่งนี้ (4 ต.ค.66) ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เวลา 10.30 น. ยังคงเหมือนเดิม ก่อนกล่าวว่า “ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดในการแก้ปัญหา” – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้