ศาลอาญา 26 ก.ย. – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินหน้าร้องขอความเป็นธรรมต่อศาล กรณีการขอหมายตรวจค้นบ้านพักซอยวิภาวดี 60 วานนี้ ละเมิดอำนาจศาลหรือไม่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเดินทางมาที่ศาลอาญารัชดา เพื่อร้องขอความเป็นธรรม และขอให้ศาลมีการไต่สวน ละเมิดอำนาจศาลในการออกหมายค้น กรณีวานนี้มีเจ้าหน้าที่ PCT สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอหมายศาล เข้าตรวจค้นบ้านพักของตนในซอยวิภาวดี 60 เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งมีการปกปิดข้อมูลศาลหรือไม่ ละเมิดอำนาจหรือไม่ เช่น การขอหมายจับ ใช้คำว่านาย ไม่บอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่, ขอหมายค้นไปตามจับ สารวัตรนนท์ นายตำรวจติดตามตน ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าสารวัตรนนท์อยู่บ้านตน และไม่บอกว่าเป็นบ้านที่อยู่อาศัยของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ตามขั้นตอนการขอหมายค้น หรือหมายจับ หากเป็นเจ้าหน้าที่ ศาลมักจะให้มีการออกหมายเรียกก่อนในเบื้องต้น เพราะมียศมีตำแหน่ง มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ซึ่งเป็นการกระทำที่ส่อพิรุธ โดยวันพรุ่งนี้กลุ่มลูกน้องที่ถูกออกหมายจับจะไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมที่ศาลอาญากรุงเทพใต้เช่นกัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องและไม่กังวล เพราะไม่มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงมาถึง เป็นเรื่องของลูกน้อง พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ ที่ทำงานด้วยมานานเหมือนเป็นเลขาฯ ในแต่ละเดือนจะให้เงินให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ ไปจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาลแม่ตน เป็นเงิน 2.8 ล้านบาท สำหรับทั้งปี ซึ่งลูกน้องจะนำเงินตนไปหมุนจ่ายอย่างไร ถึงทำให้มีเส้นเงินไปพัวพันกับ “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน ซึ่งหลังจากเมื่อลูกน้องได้ประกันตัวในชั้นศาล ก็คงต้องมีการเรียกตัวมาเพื่อพูดคุยและสอบถามข้อมูลอีกครั้ง
พร้อมแจงกรณี เฮียแต๋ม และภรรยา เป็นนักธุรกิจรายใหญ่ที่อุดรธานี ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านที่ตนอาศัยอยู่ ยืนยันว่าเฮียแต๋มเป็นญาติสนิทของตนอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งคนในจังหวัดก็ทราบว่าเป็นญาติกัน การที่จะเช่าบ้านญาติอยู่มันผิดด้วยหรือ อีกทั้งผมมีการจ่ายค่าเช่า ทำสัญญารายเดือน จ่ายเดือนละ 50,000 บาท การอยู่ฟรีคงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็ได้มีการรายงานเรื่องรายละเอียดของการเช่าบ้านต่อ ป.ป.ช.ไปแล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ย้ำว่าเป็นเรื่องการเมืองภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยหลังจากถูกค้นบ้าน ได้พูดคุยเเบบส่วนตัวกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ บอกว่าก่อนหน้านี้เพียงได้รับรายงานว่าจะมีการตรวจค้น ซึ่งบอกกับผู้ที่รายงานว่าหากจะค้นก็ขอให้แจ้งก่อน แต่ตำรวจที่เข้าไปค้นนั้นกลับรายงานภายหลังจากตรวจค้นแล้ว นั่นหมายความว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ได้มาจาก ผบ.ตร. ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเลือก ผบ.ตร.คนใหม่หรือไม่นั้น ไม่ขอออกความคิดเห็น ให้สื่อมวลชนไปคิดกันเอาเอง แต่ยืนยันว่าจะขอดำเนินคดีทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ พร้อมมองว่าเป็นเรื่องดีที่นายกฯ สั่งตั้งกรรมการคนนอกในการสอบสวนกรณีดังกล่าว เพราะหากท้ายสุดแล้วตนไม่มีความผิดก็จะสามารถพิสูจน์ตนเองและได้รับความเป็นธรรม
ส่วนที่มีกระแสข่าว ว่านายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จะออกแฉขบวนการดังกล่าวเพิ่มเติมว่ามีนักข่าว และทนายชื่อดัง เกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนัน เรื่องนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า ใครจะทำเว็บพนันไม่ใช่เรื่องของตน ส่วนหลังจากนี้จะมีการเอาคืนหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า ไม่ได้เอาคืน แต่ใครผิดก็ดำเนินคดีอาญาและฟ้องไป วันนี้ยังไม่ได้เริ่มฟ้อง มาขอความเป็นธรรมกับศาลอย่างเดียว ทั้งนี้ ตนรู้หมดว่ามีคนสั่งการเรื่องนี้ ส่วนจะดำเนินคดีหรือไม่ ก็ต้องอยู่ที่พยานหลักฐาน. -สำนักข่าวไทย