ยังไม่แจ้งข้อหา ม.157 กับตำรวจ 13 นาย รอตรวจสอบข้อเท็จจริง-ข้อกฎหมาย

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – ตำรวจสอบสวนกลางยังไม่แจ้งข้อหา ม.157 กับตำรวจ 13 นาย ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ รอตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายก่อน คาดจะได้ความชัดเจนในสัปดาห์หน้า


เวลา 16.40 น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยภายหลังประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน รวม 11 หน่วยงาน ภายใต้สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อเร่งคลี่คลายคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวง เสียชีวิตในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรก หลังรับโอนคดีต่อจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สำนวนคดีที่รับโอนมามี 2 คดี คือ คดีฆ่าสารวัตรแบงค์ และคดีเอาผิดตำรวจที่ไปร่วมงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ว่าผิดมาตรา 157 หรือไม่ ซึ่งตำรวจสอบสวนกลางได้ร่วมสอบปากคำตั้งแต่เกิดเหตุ กระทั่งวิสามัญ “หน่อง ท่าผา” มือยิงสารวัตรแบงค์ กระทั่งกำนันนกมอบตัว และมีการขยายผลจับกุม 6 ตำรวจที่ให้การช่วยเหลือกำนันนกและนายหน่องหลบหนี


จากนั้นได้ดำเนินคดีกับพลเรือน 5 คน เร่งกู้เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด กระทั่งล่าสุดมีคำสั่งโอนสำนวนมาให้ตำรวจสอบสวนกลางขยายผลต่อ ส่วนการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ในความผิดมาตรา 157 สำนวนที่ได้รับโอนมาล่าสุดขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบว่าใครทำอะไร อยู่ที่ไหน ซึ่งต้องรวบรวมให้ครบถ้วนก่อน และข้อกฎหมายตามมาตรา 157 ที่ต้องมีการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ อัยการ และศาล ว่าพฤติกรรมใดจึงจะเข้าข่ายมีความผิด ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขณะนี้ข้อเท็จจริงยังไม่นิ่ง แต่จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด คาดว่าสัปดาห์จะมีความชัดเจนว่าจะแจ้งข้อหาใครบ้าง

ส่วนกรณีการกู้เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด แม้จะมี 2 ตัวที่เป็นจุดสำคัญหันหน้าไปทางโต๊ะที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถกู้ได้ เนื่องจากหยุดทำงานไปตั้งแต่ 10 โมงเช้า ซึ่งมีการตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น คือ เจ้าของบ้านหยุดเวลาของกล้องนี้ไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ และมีการทำลายหลักฐานหลังเกิดเหตุ ซึ่งกำลังตรวจสอบ แต่เชื่อว่าส่วนตัวของอดีตกำนันนก ไม่น่าจะมีความรู้ในการลบภาพในกล้องวงจรปิด เพราะการนำเซิร์ฟเวอร์กล้องไปทิ้งใช้เวลาไม่นาน ไม่น่าจะลบได้ จึงเชื่อว่าน่าจะมีคนลบภาพในช่วงเวลาดังกล่าว แต่หากว่าไม่มีภาพวงจรปิดในขณะเกิดเหตุ ก็ยังมีหลักฐานอื่นๆ ทั้งคำให้การพยาน อาวุธปืน และมูลเหตุจูงใจ มั่นใจเอาผิดผู้ต้องหาถึงที่สุดได้ ยืนยันตำรวจสอบสวนกลางไม่ได้ประวิงเวลาช่วยเหลือใคร แต่อยากให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนก่อน

ส่วนกรณีที่พบว่ามี พ.ต.ท.ภทร วรญาวิสุทธิ์ หรือสารวัตรไอซ์ พาแฟนไปร่วมงานด้วย และจังหวะที่เกิดเหตุได้พาแฟนไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งกล้องวงจรปิดจับได้ว่าสารวัตรไอซ์ยกปืนขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงปืน แต่ไม่ได้ยิงไปที่บุคคลใด หรือเข้าไประงับเหตุ เนื่องจากอยู่ห่างจากจุดเกิดพอสมควร จึงอาจไม่เข้าข่ายผิดข้อหา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่


สาเหตุที่ ผบ.ตร. สั่งโอนคดีให้ตำรวจสอบสวนกลางดำเนินการต่อ พล.ต.ท.จิรภพ ชี้แจงว่า เป็นเรื่องปกติ เพราะเหตุเกิดที่ จ.นครปฐม มีผู้มีอิธิพลเกี่ยวข้อง จึงเป็นหน้างานของกองปราบฯ ที่ดูเรื่องผู้มีอิทธิพลอยู่อยู่แล้ว ซึ่งจะโปร่งใส ชัดเจน ตรงไปตรงมา โดยคดีที่โอนมาก็เป็นการดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อเนื่องจากของเดิม เนื่องจากสอบสวนกลางร่วมทำคดีนี้กับหน่วยอื่นๆ มีการประชุมร่วมและประสานงานกันตลอด

ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ในเรื่องนี้ตำรวจสอบสวนกลางจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งตำรวจและคนที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยจะนำข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมายืนยัน โดยจะต้องมาไล่เลียงใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่หลังเสียงปืนดังขึ้น มีใครที่วิ่งหนี หรืออยู่ต่อแล้วทำอะไรบ้าง ส่วนใครจะเกี่ยวกับข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ก็จะมาตรวจสอบกันทีละนาย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า วันเกิดเหตุได้ไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และคุยกับคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุหลายคน รวมทั้งพบเจอ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.ต.ศิวกร และที่บริเวณแขนและเสื้อมีรอยเลือดเปื้อนอยู่ รวมทั้งได้ช่วยเหลือ พ.ต.ต.ศิวกร ร่วมกับลูกน้องอีก 3 คน ออกจากพื้นที่ โดนอุ้มอยู่บริเวณข้อเท้า ก่อนไปสั่งการต่อ รวมทั้งนำ พ.ต.ท.วศิน พันปี ตำรวจที่บาดเจ็บ ไปส่งโรงพยาบาล จึงอยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.วชิรา ที่รับผิดชอบในสิ่งที่กระทำไปแล้ว

ส่วนประเด็นเรื่องส่วยสติกเกอร์ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ก่อนหน้านี้พบมีตำรวจทางหลวงเกี่ยวข้องกระทำความผิดต่อหน้าที่ 29 นาย ส่งสำนวนให้สำนักงาน ป.ป.ช. พิจารณาไปแล้ว 6 นาย ล่าสุดได้ตรวจสอบพบและสั่งย้ายตำรวจเพิ่มไปแล้วอีก 4 นาย ส่วนเหตุการณ์นี้ กองบังคับการตำรวจทางหลวงได้ส่ง พ.ต.ต.ศิวกร ไปแก้ไขปัญหานี้ หลังจากย้ายตำรวจชุดเก่าในพื้นที่ออกมาแล้ว และเชื่อว่า พ.ต.ต.ศิวกร ไม่ยอมที่จะให้มีการรับส่วยสติกเกอร์อีก จึงอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้อดีตกำนันนกไม่พอใจ เพราะทำธุรกิจรถบรรทุกอยู่แล้ว แม้ว่ารถบรรทุกในบริษัทของอดีตกำนันนกจะไม่มีรูปแบบสติกเกอร์ที่ติดไว้บนรถอย่างชัดเจน แต่พบว่าได้ติดชื่อบริษัทเอาไว้ที่หน้ารถ ทำให้เชื่อได้ว่าอาจเป็นจุดสังเกตที่ทำให้ตำรวจทางหลวงรู้กันว่าเป็นรถของบุคคลใด

ขณะที่การปราบปรามส่วยสติกเกอร์ยังคงเดินหน้าปราบปรามอย่างจริงจัง และที่ผ่านมาหลังจากเกิดเรื่องร้องเรียน ทางตำรวจทางหลวงพยายามทำให้ปัญหานี้ลดลงแล้ว แต่ยังมีบางคนพยายามทำให้กลับขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งตำรวจที่ได้ส่งไปแก้ไขปัญหาพยายามกดเรื่องเหล่านี้ให้หายไปแล้ว แต่ยังมีคนที่เฝ้าสังเกตพฤติกรรมของตำรวจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเชื่อว่าคดีนี้ยังตรวจสอบอีกนาน เพราะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]