นายฯ เตรียมนอนทำเนียบฯ 3-4 วัน/สัปดาห์

นสพ.ไทยรัฐ 18 ก.ย.-นายกฯ บอกทำงานไม่มีสิทธิ์เหนื่อย เป็นภารกิจสร้างความหวังให้ ปชช. รับไม่ได้ซื้อขายตำแหน่ง เล็งนอนทำเนียบ 3-4 วันต่อสัปดาห์ มีทีมรปภ. บ้านเล็ก เกรงใจเพื่อนบ้าน หวังบอลไทยไปบอลโลกใน 12 ปี


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมเสวนาในหัวข้อ “Future Perfect เปิดมุมคิด พลิกอนาคต” ในงานเสวนา Thairath Forum 2023 โดยมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงผู้บริหารจากหลายภาคส่วน เข้าร่วมรับฟัง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังเป็นนายกรัฐมนตรี 7 วันที่ผ่านมา ไม่มีสิทธิเหนื่อย เพราะมีหน้าที่ต้องทำงาน ตราบใดที่มีภารกิจก็ต้องทำ ตั้งแต่เข้าทำเนียบรัฐบาล นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีประมาณ 10 วินาทีตามที่ซินแสบอกให้นั่งเวลาไหนเท่านั้น แล้วลุกออกมาไม่เคยไปนั่งอีก จะมีระบบการเปลี่ยนแปลงวิธีตั้งโต๊ะทำงานต่าง ๆ ให้เหมาะกับการรับฟังปัญหาจากทุกภาคส่วนมากขึ้น


“ถ้าเป็นโต๊ะ เป็นกระจก ประตูกั้น ทางกายภาพไม่เป็นมิตรภาพเท่าไหร่ อยากให้เป็นรัฐบาลที่เข้าถึงได้ และกำลังคิดจะไปใช้บ้านพิษณุโลก ให้คณะที่ปรึกษาไปทำงานกัน และหากใครจะมาเป็นที่ปรึกษาผมแล้วถามว่ามีห้องทำงานหรือไม่ ถ้าเริ่มต้นแบบนี้คงไม่ได้เป็นที่ปรึกษาผม เรามานั่งคุยกันดีกว่า” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นเพียงการแถลงนโยบาย ยืนยัน ไม่ลืมที่ไปหาเสียงไว้ ไม่ลืมที่ไปพูดไว้ ไทน์ไลน์อาจมีความคลาดเคลื่อน แต่ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ยังไม่ทราบกระบวนการ งบประมาณ กลไล แต่พยายามเรียนรู้ระบบราชการให้เร็วที่สุด เพื่อทำงานร่วมกับภาคราชการต่อไป

ส่วนที่ไปพูดที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เรื่องการกระจายคอนเน็คชั่น เพื่อให้คนตัวเล็ก นายเศรษฐา กล่าวว่า วปอ.เป็นสถาบันที่สมควรจะมีและต้องมี เป็นสถาบันที่มีการรวมตัวกันระหว่างข้าราชการชั้นกลางและชั้นสูงที่กำลังไต่เต้าไปจนบนสุด ต้องการการประสานงานที่ดีมาก ๆ และเห็นด้วยกับภาคเอกชนหลายคนที่ไปมา ตนถือเป็นเรื่องสำคัญ พวกเราที่นั่งตรงนี้ ทำอะไรไม่เหมาะสมอยู่บ้างหรือไม่ อย่าคิดว่าไม่มีใครเห็น ตนยืนยันวปอ.เป็นสถาบันที่ดีสมควรได้รับการสนับสนุนต่อไป


ส่วนก่อนเลือกตั้งมีคำมั่นต่าง ๆ แต่การตั้งรัฐบาลครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอธิบายเหตุผลได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรามี 141 เสียง เราต้องการ 376 เรารวมกับก้าวไกล แต่ได้ไม่ถึง ถ้าเราไม่จับมือกับคนอื่นจะได้ 376 หรือไม่ จะคอย 9-10 เดือน ประชาชนคอยได้หรือไม่ คอยไม่ได้ ตนไม่ได้ขอความเห็นใจ แต่เป็นคณิตศาสตร์พื้นฐาน

ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ขั้วประชาธิปไตยชนะเลือกตั้ง แต่การตั้งรัฐบาลทำให้เห็นว่าเป็นการลงของรัฐประหารอย่างสวยงาม นายเศรษฐา กล่าวว่า จุดยืนตนไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร พรรคที่มาร่วมกับเราอย่างภูมิใจไทย แม้มาจากรัฐบาลเก่า แต่ไม่มีส่วนร่วมรัฐบาลเก่า อีกสองพรรคคนที่เกี่ยวกับการรัฐประหารก็ไม่อยู่แล้ว ประเทศต้องเดินต่อ หลายคนจะบอกว่า นายกฯ ส้มหล่น นายกฯตระบัดสัตย์ ก็พูดกันไป แต่คนเข้าใจจริงทราบคณิตศาสตร์เป็นอย่างไร สิ่งที่จะตอบได้ดีสุดคือผลงาน

“ความฝัน ความหวัง แรงบันดาลใจ เป็นภารกิจกิจหลักที่ผมแบกไว้ และต้องนำเสนอ ต้องแสดงให้เห็นในสี่ปี ต้องทำให้ประชาชนมีความหวัง ถ้าเขาไม่มีความหวัง อีกสี่ปีก็ไปใช้สิทธิสะท้อนออกมาในคะแนนเสียง ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ประชาชนต้องการ สถานการณ์ที่เราอยู่เป็นความผิดปกติของรัฐธรรมนูญที่ต้องแก้ไข ผมเทหมดหน้าตักแล้ว ถ้าเกิดคำว่าไม่เทหมดหน้าตักแสดงว่ายังมีก๊อกสองในกระเป๋า ผมไม่มีอะไรในกระเป๋า ผมเต็มที่กับทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม รัฐธรรมนูญ เราพูดทุกเวที อาจยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเวลา ถ้าชัดแล้วจะขีดไทม์ไลน์” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้เรื่องการซื้อขายตำแหน่งหมดไป นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่ตำรวจอย่างเดียว แต่การให้เกียรติข้าราชการ ไม่ยอมรับการซื้อขายตำแหน่ง เพราะถือว่าเป็นการคอรัปชันที่ร้ายแรงและรัฐบาลนี้ไม่ยอมรับ ตนดูกระทรวงการคลังและได้มอบนโยบายโดยเน้นเรื่องนี้ ไม่ได้หลีกเลี่ยงประเด็นตำรวจ เพราะรู้ว่าข้าราชการตำรวจเสียเวลาอย่างมากเรื่องการวิ่งเต้นโยกย้าย ขออภัย ผบ.ตร.ด้วย แต่เป็นเรื่องจริงที่ต้องพูด จะกำกับในเรื่องนี้

“ถ้าความเป็นจริงเรื่องซื้อขายตำแหน่งอย่างไรก็ไม่หมดไป แต่ต้องทำให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่ได้ยอมรับการซื้อขายตำแหน่ง แต่เราต้องอยู่กับความเป็นจริง ในเดือนก.ย.ก็เป็นเดือนที่ร้อนแรงเหลือเกิน คนที่ไม่รู้จักกัน 20-30 ปี ก็ส่งเข้ามา ญาติกันเต็มไปหมดเลย ผมก็ไม่รู้ เยอะมากเกินไป ที่ปรึกษาที่คุยกันอยู่ให้ปรึกษา ไม่ได้ให้เอาคนมาฝาก มันอะไรก็ไม่รู้ ผมจะรู้ได้อย่างไรคนไหนเก่งคนไหนดี ก็ต้องไปถามผู้บังคับบัญชาเขา เป็นความลำบากใจเหมือนกัน ที่ต้องจัดลำดับความเหมาะสมระหว่าง ภาคการเมือง ภาคธุรกิจและภาคราชการ ที่ต้องให้ความสำคัญ แต่ยืนยันแกนของการทำงานให้ความเป็นธรรมมากที่สุดกับภาคราชการ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนที่หลายคนมองว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนไหว้สวย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คุณแม่สอนไว้ว่าการไหว้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นความประทับใจแรกพบ เป็นการเริ่มต้นที่ดี ถ้าทักทายเหมาะสม เป็นการให้เกียรติให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นใครต้องให้ความเสมอภาคตรงนี้ ส่วนเรื่องที่บอกว่าจะนอนที่ทำเนียบรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะบ้านที่ตนอยู่เล็ก ต้องมีตำรวจไปดูแล เพื่อนบ้านจะเดือดร้อน รวมถึงต้องใช้เวลาเดินทางมาก

“ไม่อยากเป็นภาระกับตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัย คนที่เป็นภาระคือฝ่ายเลขาฯ ผมทานอาหารเช้า 06.30 น. ก็ต้องมีคนมาสั่งงานได้แล้ว ผมยอมเป็นภาระกับกลุ่มเลขาฯ 4-5 คนเท่านั้น โดยจะไปนอน 3-4 วันต่อสัปดาห์ ถ้ามีภารกิจตอนค่ำ ก่อนนอนก็สั่งงานได้ ยืนยันทำงานเต็มที่ เทหมดหน้าตักจริง ๆ ก็ต้องทำงานหนักจริง ๆ ตอนเจอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ก็เตือนให้ผมระวังว่าคนจะหาว่าสร้างภาพ ผมเข้าใจในความหวังดีเพราะโดนแน่นอน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่าอยากเขียนประวัติให้คนจดจำตัวเองอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่อยากเขียนเรื่องราวตัวเอง แต่อยากให้ประชาชนเขียนเรื่องราวของตน อยากให้ประชาชนเห็นว่าชีวิตความเป็อยู่ดีขึ้นอย่างไร ความแตกแยกของสังคม ทั้งความต่างวัย ต่างความคิด เราสามารถอยู่กันได้โดยไม่พูดจาด้อยค่ากันด้วยคำหยาบคาย อยากให้สัมคมดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อจะหมดวาระ

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีเป็นคนชื่นชอบฟุตบอล มีโอกาสหรือไม่ที่บอลไทยจะได้ไปบอลโลก นายเศรษฐา กล่าวว่า มี แต่ต้องตั้งต้นก่อน ต้องร่วมกันพัฒนาวงการกีฬาให้ดีขึ้น เราต้องมีความหวัง รัฐบาลมีส่วนช่วยได้ต้องเต็มที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีเคยบอกว่าญี่ปุ่นใช้เวลาเริ่มต้นไปบอลโลกได้ใช้เวลา 25 ปี แต่เรามีตัวช่วยอื่นๆ จากโตวต้าบอลโลก ยังมีความหวังตนว่าอย่างช้าไม่น่าเกิน 12 ปี ให้อีก 2-3 รอบ ถ้าเรามีความหวังผู้สนับสนุนก็จะเข้ามาได้ ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]