เขื่อนแตกลิเบีย เสียชีวิตเพิ่มเป็น 5,300 คน สูญหายนับหมื่น

13 ก.ย. – พายุกระหน่ำจนเขื่อนแตกในลิเบีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 5,300 คน และยังสูญหายเป็นจำนวนมาก กลายเป็นโศกนาฏกรรมซ้ำเติมประเทศที่ตกอยู่ในความขัดแย้งทางการเมือง


พายุแดเนียลที่พัดถล่มลิเบีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงเวลาสั้นๆ แต่วัดปริมาณน้ำฝนได้เท่ากับปริมาณฝนที่ตกในระยะเวลา 8 เดือน จนเกิดน้ำท่วมหนัก และมีเขื่อนแตกถึง 2 แห่ง จนมวลน้ำปริมาณมหาศาลไหลทะลักจากแถบภูเขาไปยังที่ราบชายฝั่ง โดยเฉพาะที่เมืองเดอร์นา เมืองท่าริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีประชากรราว 100,000 คน ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

เมืองเดอร์นา อยู่บริเวณปากแม่น้ำซึ่งมีเขื่อน 2 แห่งอยู่บริเวณเทือกเขาทางใต้ เมื่อเขื่อนแห่งแรกที่อยู่ห่างจากเมืองราว 12 กิโลเมตรแตก ทำให้มวลน้ำไหลบ่าลงมายังเขื่อนแห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ใกล้เมืองแตกไปด้วย


กระแสน้ำพัดทำลายสะพาน ตึกสูง บ้านเรือนตามริมฝั่งแม่น้ำพังทลาย กวาดเอาซากบ้านและรถยนต์ลงไปในทะเล ตามคำประกาศของรัฐมนตรีคนหนึ่ง เฉพาะในเมืองนี้เพียงแห่งเดียวมีผู้เสียชีวิตกว่า 5,300 คน และคาดว่ายอดเสียชีวิตทั้งหมดจะสูงขึ้นอีกเท่าตัว เพราะหลายฝ่ายยืนยันว่ามีผู้สูญหายนับหมื่นคน

หายนะภัยครั้งใหญ่เกิดขึ้นในเวลานี้ ลิเบียยังคงอยู่ในสภาพขัดแย้งทางการเมือง ตั้งแต่สิ้นสุดยุคผู้นำเผด็จการ โมอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อ 12 ปีก่อน โดยมีรัฐบาลสองรัฐบาลแย่งอำนาจปกครอง ประชาชนอยู่ในภาวะยากจนและพลัดถิ่นฐานมากมาย รัฐบาลที่กรุงตริโปลี ซึ่งสหประชาชาติรับรอง ได้ประกาศไว้อาลัยเป็นเวลา 3 วัน และเรียกร้องความสามัคคีของชนในชาติ

แผ่นดินไหวโมร็อกโก ตายเกิน 2,900 คน
ส่วนที่โมร็อกโก ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.8 เมื่อคืนวันศุกร์ ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 2,901 คน และมีผู้บาดเจ็บกว่า 5,550 คน ขณะที่การค้นหาผู้สูญหายเดินหน้าต่อไป โดยมีทีมกู้ภัยจากสเปน อังกฤษ กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ช่วยเหลือ แต่โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตคงเป็นไปได้ยาก เพราะล่วงเลยมาถึง 4 วันแล้ว


ส่วนการจัดส่งความช่วยเหลือยังเป็นไปอย่างล่าช้า โดยเฉพาะในพื้นที่แถบเทือกเขาไฮ แอตลาส ถนนสายหลักถูกก้อนหินและดินถล่มลงมาปิดทับ ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ที่เมืองมาราเกช ผู้คนยังต้องนอนกันกลางแจ้ง ยังไม่กล้ากลับเข้าไปในบ้าน เพราะเกรงจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมา

เมื่อวานนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเหม็ดที่ 6 ได้เสด็จไปทรงเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บจากแผ่นดินไหว ที่โรงพยาบาลในเมืองมาราเกช และโอกาสนี้ยังทรงร่วมบริจาคโลหิต เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บด้วย ขณะที่กาชาดร้องขอความช่วยเหลือเป็นเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,500 ล้านบาท เพื่อนำไปจัดหาอาหาร น้ำดื่ม ที่พักอาศัยชั่วคราว เวชภัณฑ์และยารักษาโรค ให้แก่ผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

เขากระโดง

“อนุทิน” ยัน เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ไม่เคยขัดแย้งปมเขากระโดง

“อนุทิน” ย้ำพรรคร่วมรัฐบาลมีเป้าหมายเหมือนกัน ทำประโยชน์ให้ประชาชน-ประเทศ หลัง “ทักษิณ” ชมพรรคร่วมสามัคคีกันดี ยันเพื่อไทย-ภูมิใจไทย ไม่เคยขัดแย้งปมเขากระโดง ขอคนไม่อยู่ในวงอย่าคาดคะเน ชี้ไม่มีเหตุผลต้องปกป้องผลประโยชน์ใคร โอดกว่าจะนั่งคุม มท. แทบตาย ไม่ให้ใครมาด่าสาดเสียเทเสีย

สนามบินสุวรรณภูมิ

ยูเนสโก ยกย่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” 1 ใน 6 สนามบินสวยสุดในโลก

“สุริยะ” รมว.คมนาคม ปลื้ม ยูเนสโก ยกย่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ติดอันดับ 1 ใน 6 สนามบินสวยที่สุดในโลก ประจำปี 2567 ด้าน “อาคาร SAT-1” สุดปัง! หลังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสนามบินที่มีสถาปัตยกรรมสวยที่สุดของโลก โชว์ความโดดเด่นด้านความงาม-ความคิดสร้างสรรค์ ชูอัตลักษณ์ความเป็นไทย จ่อประกาศผล 2 ธ.ค.นี้

รฟท. คัดค้านคำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินทับซ้อนเขากระโดง

การรถไฟฯ ลุยยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน คัดค้านคำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ที่ดินทับซ้อนเขากระโดง ย้ำปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โปร่งใสและเป็นธรรม