‘ภูมิธรรม’ รับไม่ปิดกั้นพรรคลุง พร้อมขอโทษ “ก้าวไกล”

รัฐสภา 9 ส.ค.-‘ภูมิธรรม’ เผยประสานทุกพรรคหนุนแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ไม่ปิดกั้นพรรคลุง วอนทุกฝ่ายร่วมนำพาประเทศสลายขั้ว ยันพร้อมขอโทษ-ขอขมา “ก้าวไกล” ขอเสียงโหวตนำพาประเทศฝ่าวิกฤติ

นายภูมิธรรม เวชยชัย สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ระบุว่าเพื่อไทย ได้มีการติดต่อพรรคก้าวไกล หารือวันนี้ (9 ส.ค.) ว่า วันนี้การแก้ไขปัญหาประเทศไม่ใช่การเปลี่ยนขั้ว แต่เป็นการสลายขั้ว และการแก้วิกฤติต่างๆ ของประเทศ ยืนยันว่าเราจะทำการเมืองแบบใหม่ พรรคไหนมีข้อเสนอดีก็นำมาปฏิบัติ เราจึงจะเข้าหาทุกฝ่ายโดยวันนี้จะแถลงร่วมกับ 6 พรรค รวมถึงพรรคชาติพัฒนากล้าด้วย ส่วนพรรคเพื่อไทรวมพลัง ตอนนี้แกนนำยังอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งจะมีการแถลงต่อไป


ส่วนพรรคก้าวไกล เราได้ติดต่อประสานงานไป และอยากใช้เวทีนี้ในการพูดคุยกันว่าสถานการณ์ประเทศเป็นแบบนี้จะทำให้ความต้องการของประชาชนบรรลุความสำเร็จได้ อยากให้ก้าวไกลร่วมแสดงเจตจำนงค์ในการโหวตครั้งนี้ด้วย อะไรที่เคยเป็นปัญหา ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้น หากมาจากพรรคเพื่อไทยหรือมาจากตน เรายินดีไป “ขอโทษ ขอขมา” ยินดีที่จะไปแสดงความต้องการ และความคิดเห็นถึงวิกฤติประเทศในครั้งนี้ จะให้เราไปถึงพรรคก้าวไกลเราก็ยินดี ซึ่งขณะนี้กำลังรอวันและเวลา ถือเป็นเวทีหนึ่งที่เราจะไปแสดงเจตจำนง วันนี้เราคิดเรื่องใหญ่ของประเทศเป็นหลัก ถ้าอยากจะทำงานใหญ่ต้องคิดให้ใหญ่ มองข้ามความขัดแย้งเดิมๆ ทั้งเรื่องไล่หนู ตีงูเห่า หรือความขัดแย้งหลายๆ อย่าง ถ้าแก้ปัญหาตรงนี้ได้ประเทศก็จะเดินหน้าได้

นายภูมิธรรม ยังระบุว่า วันนี้เราติดต่อไปทุกพรรค และค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดีในจุดเริ่มต้น แต่ก็มีรายละเอียดอื่นๆ ที่ต้องพูดคุยกัน รวมถึงความมั่นใจที่เพื่อไทยจะต้องแสดงให้เห็นว่ามีความจริงใจ ซึ่งเพื่อไทยยินดีที่จะยืนยันตามเจตจำนงค์ ตัวเลขทางคณิตศาสตร์แสดงให้เห็นชัดเจน ถ้าวันนี้ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เรามีทางเลือกไม่กี่ทาง จึงจำเป็นต้องไปในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งมีต้นทุนที่ต้องจ่ายทั้งนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนอาจจะมีความไม่สบายใจ วันนี้พรรคเพื่อไทยยอมทุกอย่าง ถ้าให้โอกาสเรา เราจะพิสูจน์ด้วยการทำงาน ซึ่งว่าที่นายกรัฐมนตรีของเรา มีประสบการณ์การทำงาน เชื่อว่าจะผ่านพ้นวิกฤติทุกอย่างไปได้ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยยินดีร่วมกับทุกพรรคการเมืองในการขับเคลื่อนนโยบาย ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล มีเพียงเรื่อง ม.112 และเรื่องสถาบันที่เราจะไม่แตะต้อง ส่วนจะสามารถทำงานร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐ หรือพรรค 2 ลุงได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าวันนี้พูดชัดเจนแล้วว่าไม่มีการแบ่งขั้ว ทางที่ดีที่สุดคือทำให้สามารถตัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งเท่าที่พูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นวันนี้ยังไม่มีพรรคใดบอกว่าไม่ร่วมทุกพรรคอยากฟังรายละเอียด ซึ่งตนมองว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์ทุกคนจะต้องเข้าใจ ว่าทุกอย่างพิจารณาอย่างรอบครอบเเล้ว ว่าจะไปต่อได้ ถ้าเอาประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าทุกพรรคจะยอมรับได้ ซึ่งตนเรียกร้องทุกฝ่าย รวมไปถึง สว.ด้วย ทั้งรายบุคคล กลุ่มการเมือง อยากให้เป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง วันนี้พรรคเพื่อไทยอาสา และมีต้นทุนที่ประชาชนต้องตรวจสอบ หากทำไม่ได้ ในอนาคตประชาชนจะเป็นผู้ตรวจสอบและตัดสินพรรคเพื่อไทย


ส่วนจะได้รับคำตอบจากพรรคก้าวไกลเมื่อไหร่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ขณะนี้ได้คำตอบจากพรรคการเมืองอื่นมาเรื่อยๆ และสามารถจะแถลงความชัดเจนได้เป็นระยะ จนกว่าจะถึงวันที่พรรคเพื่อไทยไปต่อไม่ได้ วันนั้นจะได้แถลงให้ ประชาชนรับทราบ

นอกจากนี้นายภูมิธรรม ยังระบุด้วยว่า เท่าที่พูดคุยกับพรรคการเมืองต่างๆ ไม่มีการเรียกร้องเก้าอี้รัฐมนตรี ในฐานะพรรคแกนนำพูดชัดเจนไม่มีการคุยเรื่องกระทรวง เมื่อพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่พูดคุยเรื่องนี้ปัญหาเรื่องการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีจึงยังไม่เกิดขึ้น วันนี้ต้องฝ่าวิกฤติกับรัฐธรรมนูญที่ผิดปกติไป เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรี จึงจะมาคุยในเรื่องอื่นๆ พรรคที่มีนโยบายตอบสนองกับประชาชนได้ก็จะมาร่วมพูดคุยกัน วันนี้ไม่ใช่เพียงการตั้งรัฐบาลอย่างเดียว ต้องมีการทำงานที่สอดประสานกัน และทำงานได้อย่างเต็มที่เท่าที่ต้องการ ฝ่ายค้านก็ต้องตรวจสอบได้อย่างเต็มที่เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ถือเป็นแนวทางในการติดต่อ วันนี้ทุกท่านต้องถามตัวเอง ว่าพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการคลี่คลายสังคมให้หลุดจากความขัดแย้ง และวิกฤติเศรษฐกิจที่อยู่มา 8-9 ปี หรือไม่ ส่วนที่ยังมีอารมณ์หรือใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหา ตนคิดว่าเราอดทนทะนุถนอมกัน ชี้แจงกัน โดนหนักนิดเบาหน่อยเป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่คือประเทศชาติบอบช้ำมากพอแล้ว

ส่วนจะมีโอกาสร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลได้หรือไม่ ถามตนไม่ได้ ต้องถามว่าสิ่งที่ตนพูดมาจะเกิดขึ้นได้อย่างไรแล้วค่อยตัดสินใจร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว

เจ๊พัชกฤษอนงค์

นำ “เจ๊พัช” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

กองปราบหิ้ว “กฤษอนงค์” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตำรวจค้านประกัน เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย

พะยูนตาย

ห่วงสถานการณ์พะยูน พบตายถี่จากแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรม

“เฉลิมชัย” ห่วงสถานการณ์ “พะยูน” ซึ่งพบตายบ่อยขึ้น สั่งการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและกรมอุทยานแห่งชาติฯ เฝ้าติดตามปัญหา ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขโดยด่วน