ลำปาง 4 ส.ค.- อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยด่านกักกันสัตว์ลำปางเข้าเก็บเลือดและสิ่งคัดหลั่งของ “พลายศักดิ์สุรินทร์” ส่งตรวจตามระเบียบกักโรคครั้งสุดท้าย หากไม่พบโรคติดต่อใดๆ จะปล่อยจากการกักโรค โรงพยาบาลช้างลำปางเผย ระหว่างนี้ตรวจวินิจฉัยและรักษาเบื้องต้น รวมถึงฟื้นฟูสุขภาพ เมื่อปลดการกักโรคแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการรักษาเต็มรูปแบบ

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า วานนี้ (3 สิงหาคม 2566) เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ลำปางได้เข้าตรวจช้าง “พลายศักดิ์สุรินทร์” ภายหลังการนำเข้าราชอาณาจักรเป็นวันที่ 33 ที่สถานกักกันสัตว์สถาบันคชบาลแห่งชาติ อ. ห้างฉัตร จ. ลำปาง โดยระยะเวลากักโรคครบ 30 วันเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ตามระเบียบกรมปศุสัตว์จะต้องให้ผลตรวจครั้งสุดท้ายออกก่อน หากไม่พบโรคจึงจะปล่อยจากการกักโรคได้
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคเหนือตอนบน สัตวแพทย์สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำปางเจาะเลือดเก็บซีรั่ม สิ่งคัดหลั่งภายในงวงและอุจจาระเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ที่กำหนดให้ตรวจโรคติดต่อสำคัญในช้าง 6 โรคดังนี้
– พยาธิในเลือด (Trypanosoma evans)
– ปรสิตในมูลช้าง
– สารพันธุกรรมของเชื้อก่อโรควัณโรค
– สารพันธุกรรมต่อเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์
– แอนติบอดีต่อโรคฉี่หนู
– แอนติบอดีแบบ non-structural protein ของเชื้อไวรัสโรคปากและเท้าเปื่อย
– แอนติบอดีต่อเชื้อก่อโรคแท้งติดต่อ (Brucella abortus)
จากการตรวจ 2 ครั้งที่ผ่านมา ไม่พบโรคทั้งหมด แต่ระหว่างนี้ยังต้องแยกกักจากช้างอื่นและสัตว์กีบคู่อย่างเข้มงวด โดยต้องไม่ให้ปะปนหรือสัมผัสกัน กำหนดให้มีการจัดการระบบป้องกันทางชีวภาพ (Biosecurity) ในบริเวณที่ทำการกักช้าง และป้องกันโรคที่อาจเกิดจากแมลงเป็นพาหะ เป็นต้น เจ้าหน้าที่จึงฉีดพ่นทำลายเชื้อโรคบริเวณและยานพาหนะเข้าออก ฉีดพ่นหมอกควันโดยรอบบริเวณกักสัตว์ เพื่อกำจัดแมลงพาหะโรคระบาด จากการสังเกตุอาการโดยทั่วไปและสอบถามควาญช้างพบว่า ช้างมีอาการร่าเริงและกินอาหารได้ปกติ
โรงพยาบาลช้างลำปางแจ้งว่า หลังจากเก็บตัวอย่างเลือดและสารคัดหลั่งต่างๆ ครั้งสุดท้ายแล้ว คาดว่าต้องรอผลอีก 7-10 วัน เมื่อแน่ใจว่าช้างมีสุขภาพดี ไม่เป็นโรคติดต่อที่สามารถแพร่ไปยังเพื่อนช้างเชือกอื่นได้ จึงจะดำเนินการขั้นตอนถัดไปคือ “ฝึกช้างขึ้นรถ” เนื่องจากพื้นที่กักโรคนั้นอยู่ห่างจากที่อยู่ใหม่ของ “พลายศักดิ์สุรินทร์” พอสมควร ต้องขนย้ายโดยใช้รถบรรทุกช้าง เพื่อให้การขนย้ายเป็นไปอย่างปลอดภัย
ในระหว่างที่ยังไม่ได้ย้ายไปทำการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลช้างลำปาง ทีมสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมประชุมวางแนวทางการตรวจวินิจฉัยและรักษาเบื้องต้นไปแล้ว พร้อมทั้งฟื้นฟูสุขภาพโดยให้ทำกิจกรรมบางอย่างที่สามารถทำได้ในช่วงกักโรคด้วยการให้เดินออกกำลังกายในทางราบ หากมีคำสั่งปล่อยจากการกักโรคจึงจะเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างเต็มรูปแบบ.-สำนักข่าวไทย