สระบุรี 1 ส.ค. – สาวสระบุรี ร้องสื่อหลังตกเป็นเหยื่อเกือบถูกข่มขืน แต่ถูกดำเนินคดีบุกรุก ซ้ำตำรวจที่ทำคดีให้ ยังเรียกรับเงินหลักแสน พยายามโน้มน้าวให้เป็นเมียน้อย แลกกับการช่วยเหลือ ล่าสุดมีคำสั่งให้ออกจากราชการแล้ว พบมีคดีค้างเก่าอยู่ 3 คดี
กรณีหญิงสาวถูกตำรวจเรียกเงิน 1 แสนบาท แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ฐานบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน จากนั้นตำรวจขอมีสัมพันธ์ชู้สาว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2565 พื้นที่จังหวัดสระบุรี ขณะผู้เสียหายกำลังกลับบ้านช่วงกลางคืน จังหวะที่รถยนต์เสียแบตเตอรี่หมด โทรศัพท์มือถือแบตหมด มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือช่วยเข็นรถยนต์ให้ แต่เข็นเข้าไปในที่เปลี่ยว อ้างว่าจะพาไปเอาแกลอนมาซื้อน้ำมันเติมรถที่บ้าน และเอาสายชาร์จโทรศัพท์ให้ ชายคนดังกล่าว บอกว่าให้เดินไปหยิบสายชาร์จในห้อง จากนั้นก็เข้ามาล็อกห้องและพยายามลวนลาม เหยื่อสาวจึงออกอุบายขอเข้าห้องน้ำ และหลบหนีออกมาได้ โดยปีนรั้วหนีไปยังบ้านข้างๆ แต่ถูกเจ้าของบ้านหลังที่หนีเข้าไป แจ้งข้อหาบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน เพราะตกใจที่เข้ามาช่วงกลางดึก จึงถูกคุมมาดำเนินคดี
นอกจากนี้ เหยื่อสาวยังแจ้งความดำเนินคดีกับชายเจ้าของบ้านหลังแรกไว้ด้วยว่ากระทำอนาจาร จากนั้นเจ้าของบ้านหลังที่ 2 เมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมดจึงถอนแจ้งความแล้ว แต่ตำรวจไม่ให้ถอนแจ้งความ อ้างเป็นคดีอาญาถอนแจ้งความไม่ได้ จากนั้นตำรวจยศ “พันตำรวจโท” ขู่เรียกรับเงิน 1 แสนบาท อ้างว่าช่วยเหลือไม่ฟ้องร้องคดี ไม่ต้องถึงชั้นอัยการ แต่หาเงินให้ไม่ได้จึงต่อรองเหลือ 1 หมื่นบาท ซึ่งตำรวจนายนี้ทำคดีที่ถูกกระทำอนาจารให้ แต่ขอมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวอีก จึงต้องเข้าร้องสื่อ และนำหลักฐานเข้าร้องเรียน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องคดี
พล.ต.ต.วิชิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า นายตำรวจที่ก่อเหตุ มียศพันตำรวจโท ปัจจุบันตำแหน่งเป็นสารวัตรธุรการคดี อยู่ที่ สภ.เมืองสระบุรี มีเรื่องร้องเรียนค้างเก่าอยู่ 3 คดี เป็นคดีเกี่ยวกับฉ้อโกงทรัพย์ ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสรุปว่ามีความผิดจริงอยู่ระหว่างเสนอให้ออกจากราชการ กระทั่งวันนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเหยื่อสาว และการก่อเหตุเรียกรับผลประโยชน์และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงได้สั่งให้พนักงานสอบสวนเก็บรวบรวมหลักฐาน และแจ้งข้อกล่าวหากับสารวัตรที่ก่อเหตุแล้ว ยืนยันจะดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างเป็นธรรม พร้อมเซ็นคำสั่งเบื้องต้นให้สารวัตรนายนี้ออกจากราชการแล้ว โดยได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดูแลคดีนี้อย่างละเอียดรอบคอบ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย