กทม. 13 ก.ค.- แม้ตอนนี้จะเริ่มกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วและที่ประชุมร่วมรัฐสภามีการเสนอชื่อ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ก็อาจยังมีการพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นได้ ดู 4 ฉากทัศน์สูตรจัดตั้งรัฐบาล ได้แก่ 1.รัฐบาลก้าวไกลและนายกฯ พิธา 2.รัฐบาลก้าวไกลและนายกฯ ไม่ใช่พิธา 3.ผลักก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน 4.จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ฉากทัศน์แรก ที่ยังคงนำโดยพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้การรวมเสียงพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค มีอยู่ 312 เสียง แต่ต้องหักเสียงของนายวันนอร์ออกไป 1 เสียง (เพราะเป็นประธานสภาฯ งดออกเสียง) ก็คงเหลือ 311 เสียง ส่วนทาง ส.ว. มี 250 เสียง ล่าสุด ส.ว. เรณู ลาออก คงเหลือ 249 เสียง ทำให้เสียงสองสภา รวมเป็น 749 ดังนั้น หากจะให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องได้ 375 เสียง จำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนอีก 64 เสียง ซึ่งก็เป็นเสียงจาก ส.ว ส่วนใหญ่
ฉากทัศน์ที่ 2 หากเสียงสนับสนุน นายพิธา ไม่เพียงพอ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะให้พรรคอันดับ 2 อย่างเพื่อไทยเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีขึ้นชิงชัย ซึ่งมี 3 รายชื่อคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน และนายชัยเกษม นิติศิริ โดยสูตรนี้อาจจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะ 8 พรรคยังคงเหนียวแน่น และยังคงต้องหาเสียงสนับสนุน อีก 64 เสียงเช่นกัน
ฉากทัศน์ที่ 3 ฉากทัศน์นี้ถูกจับตาเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้มีการวิเคราะห์กันว่า เพื่อไทยอาจจะเปลี่ยนขั้วไปจับมือขั้วอำนาจเดิม ก็คือ รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งถ้าดูตัวเลขแล้ว ตอนนี้เพื่อไทยมี 141 เสียง พรรครัฐบาลเดิมมี 188 เสียง ที่มาจากภูมิใจไทย 71 เสียง พลังประชารัฐ 40 เสียง รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง ประชาธิปัตย์ 25 เสียง ชาติพัฒนา 10 เสียง และยังมีพรรคเล็ก อีก 6 เสียง ดูเหมือนสูตรนี้จะทำให้การรวมเสียงเกิดขึ้นได้แบบสบายๆ เพื่อไทย 141 บวกกับ 188 จะได้ถึง 329 เสียง แถมยังมีเสียงตัวแปรสำคัญอย่าง ส.ว. 249 เสียง ที่คิดว่าคงพร้อมใจเทคะแนนให้ ซึ่งอาจจะได้เสียงมากถึง 578 เสียง โหวตนายกรัฐมนตรีผ่านแน่นอนกับสูตรนี้ ซึ่งจะทำให้พรรคก้าวไกลต้องเป็นฝ่ายค้าน
ฉากทัศน์ 4 กับรัฐบาลเสียงข้างน้อย คือ พรรคขั้วรัฐบาลเดิม 188 เสียงเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเข้าแข่งขัน และเป็นไปได้ว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากส.ว.มากพอเช่นกัน ซึ่งสูตรนี้ต้องหารเสียง ส.ว.อีก 187 เสียง แต่การตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ปัญหาในอนาคต คือ การผ่านกฎหมายสำคัญในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพราะเสียงฝ่ายค้าน ที่เป็นก้าวไกล เพื่อไทย และพรรคร่วมอื่นๆ จะมีมากกว่าสามารถที่จะคว่ำกฎหมายได้ ทำให้ที่ผ่านมาทางพรรคขั้วรัฐบาลเดิม มักออกมาปฏิเสธว่าจะไม่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะจะเกิดปัญหาในอนาคต .-สำนักข่าวไทย