รวบครบ 3 ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน

12 ก.ค. – ไม่รอด! ผู้ต้องหารายสุดท้ายแก๊งโหดฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน ถูกรวบตัวที่ จ.กาญจนบุรี ขณะเตรียมหนีเข้าชายแดนเมียนมา


ผู้ต้องหาคนล่าสุดที่จับกุมได้คือ นายชาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี เชื้อชาติปากีสถาน สัญชาติไทย ถูกจับได้ที่ จ.กาญจนบุรี ขณะเตรียมเดินทางต่อไปยังชายแดนเมียนมา นายคารีม คือ คนที่นั่งจับตู้แช่แข็งอยู่หลังกระบะเข้าไปในบ้านหรูพลูวิลล่า เบื้องต้นนายคารีมปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมร้องขอพบทนาย และขอให้ตำรวจติดต่อญาติ ทางตำรวจกาญจนบุรีได้ประสานให้ตำรวจ สภ.หนองปรือ เจ้าของคดี มารับตัวนายคารีมไปสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

สรุปตอนนี้ตำรวจจับกุมได้ครบแล้ว ผู้ต้องหา 3 คน ในคดีฆ่าหั่นศพนายฮันส์ ปีเตอร์ นักธุรกิจชาวเยอรมัน แล้วยัดชิ้นส่วนใส่ตู้แช่แข็ง หลังออกหมายจับเมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันซ่อนเร้นทำลายศพ โดยคนแรก คือ มาดามเพธา เป็นนางนกต่อ คนที่ 2 คือ นายโอลาฟ ตัวการสำคัญซึ่งหนีมากบดานในกรุงเทพฯ แต่ตำรวจตามจับตัวได้เมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) และนำตัวไปที่ สภ.หนองปรือ ทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธ


“โอลาฟ” เครียดไม่ยอมนอน เดินพูดคนเดียวทั้งคืน
วันนี้ตำรวจนำตัวนายโอลาฟมาสอบเพิ่ม และสั่งเพิกถอนวีซ่าการเดินทาง ระหว่างควบคุมตัวออกจากห้องขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสัมภาษณ์นายโอลาฟ แต่เจ้าตัวไม่ยอมพูดอะไร พยายามยกมือปิดบังใบหน้า และพูดจาโวยวายเป็นบางช่วง

ตำรวจบอกว่าเมื่อคืนนี้ หลังสอบนายโอลาฟเสร็จ และนำตัวเข้าห้องคุมขัง ประมาณตี 2 ปรากฏว่านายโอลาฟไม่ยอมนอน มีอาการกระวนกระวาย พูดบ่นคนเดียวตลอดทั้งคืน ก่อนมาสงบในช่วงเช้ามืด

ส่วนมาดามเพธา ผู้ต้องหาอีกคน มีอาการเครียด แน่นหน้าอก เจ้าหน้าที่ต้องประสานกู้ภัยเข้ามาปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนอาการดีขึ้น


ตั้งข้อหา “นิโคล” คนเช่าบ้าน ช่วยเหลือซ่อนเร้นทำลายศพ
นอกจากผู้ต้องหา 3 คนตามหมายจับแล้ว เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ตำรวจยังได้ควบคุมตัวชาวเยอรมันอีกคน คือ นางสาวนิโคล เฟรเวล เป็นคนเช่าบ้านที่พบศพนายฮันส์ ปีเตอร์ และแจ้งข้อหาให้การช่วยเหลือซ่อนเร้นทำลายศพ ขณะเข้าควบคุมตัว นิโคลได้ใช้มีดกรีดแขนตัวเองและร้องโวยวายว่า “ถ้าไม่ตายวันนี้ก็ต้องถูกตามฆ่า”

ผลชันสูตรศพ “ฮันส์ ปีเตอร์” ถูกหั่นแยกร่าง 11 ชิ้น
ผลชันสูตรศพนายฮันส์ ปีเตอร์ เบื้องต้นจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พบว่าร่างของนายฮันส์ถูกหั่นออกเป็น 11 ชิ้นส่วน ถูกหั่นหลังจากผ่านการแช่ร่างจนแข็ง เสียชีวิตก่อนนำไปแช่แข็ง และพบบาดแผลที่เกิดก่อนการเสียชีวิต เป็นบาดแผลฟกช้ำเล็กน้อยตามใบหน้า แขน ขา ซึ่งบาดแผลเหล่านี้ไม่สามารถทำให้ถึงตายได้ ตอนนี้ยังไม่เจอสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนเพียงพอ ต้องรอการตรวจชิ้นเนื้อผ่านกล้องจุลทรรศน์ คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน รวมถึงการตรวจหาสารพิษและดีเอ็นเอ คาดใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]