ย้อน 2 โพสต์ “สุชัชวีร์” เคยเตือนความปลอดภัยสะพานลาดกระบัง

กทม. 11 ก.ค. – ย้อนโพสต์ “ดร.เอ้ สุชัชวีร์” เคยเตือนปัญหาหลายอย่างของการก่อสร้างทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง เมื่อปีที่แล้ว สุดท้ายพังลงมา มีคนสูญเสียจนได้


จากกรณีโครงสร้างโครงการก่อสร้างทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ทั้งตัวคานและเสาเกิดการทรุดตัวก่อนพังถล่มลงมาเมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (10 ก.ค.) เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งรถหลายคันได้รับความเสียหาย หากย้อนไปเมื่อช่วงปีที่แล้ว (2565) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตนายกสภาวิศวกร และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เคยโพสต์เตือนโครงการก่อสร้างดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ว่า “ด้วยความห่วงใย การก่อสร้างสะพาน ต้องมีมาตรฐาน นั่งรถผ่านโครงการก่อสร้างสะพานถนนลาดกระบัง-อ่อนนุช ทุกวัน เห็นแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้”

พร้อมกับแสดงความกังวล และเล่าจากประสบการณ์หลายปี ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการวิบัติของการก่อสร้างโครงสะพาน ซึ่งจะเกิดเหตุบ่อยครั้งขณะทำงานในกรณี “นั่งร้านคนงานพัง” เนื่องจากทั้งดินอ่อนรับน้ำหนักนั่งร้านไม่ได้ หรือไม่ได้ค้ำยันกับโครงสร้างที่มั่นคงแข็งแรง ทำให้คนงานบาดเจ็บและเสียชีวิตบ่อยครั้ง นอกจากนี้ “ไม้แบบรองรับการเทคอนกรึตเสาและคานพัง” เพราะรับน้ำหนักขณะเทคอนกรีตไม่ได้ หรือ เทผิดจังหวะทำให้ไม้แบบเอียงพัง หรือ เสาค้ำยันไม้แบบวางบนดินอ่อนเกิน ก็พังลงมา และกรณี “เครนล้ม” เนื่องจากใช้เครนไม่ถูกขนาด เล็กเกินไปที่จะยกโครงสร้างน้ำหนักมาก จึงพลิกคว่ำบ่อยครั้ง เป็นอันตรายทั้งคนขับเครน และคนงานในพื้นที่ สุดท้าย “คานหล่น” ขณะติดตั้ง เนื่องจากหลุดจากเครนยก หรือหล่นขณะวางพาดบนเสา หลายครั้งลงมาใส่รถที่สัญจร อยู่ข้างล่าง ซึ่งกรณีนี้เอง เกิดขึ้นจริงเมื่อวานนี้ ตามที่ดร.เอ้ เคยให้ความเห็นไว้


จากนั้น ดร.เอ้ ยังโพสต์ฉะอีกครั้ง วันที่ 19 สิงหาคม 2565 ว่า “กลับบ้านวันศุกร์ ไม่สุข ไม่ปลอดภัย ผมขอแสดงความเป็นห่วงจากใจ โครงการก่อสร้างสะพานข้าม ถนนอ่อนนุช-หัวตะเข้ เขตลาดกระบัง เห็นปัญหาชัดเจน” พร้อมระบุถึงปัญหาที่พบ 3 ข้อใหญ่ๆ ถึงเครื่องจักรขนาดใหญ่ทำงานโดยที่ไม่มีแนวป้องกัน เสี่ยงอุบัติเหตุของหล่น จะทำให้ประชาชนเดือดร้อน อีกทั้งถนนยุบจากการก่อสร้าง เสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ และสุดท้ายการจราจรติดขัดสาหัส เพราะโครงการก่อสร้างกินพื้นที่กว้าง แม้ว่าบางช่วงก่อสร้างเสร็จแล้ว ก็ต้องคืนให้ประชาชนสัญจรได้ เพราะอุบัติเหตุจากการก่อสร้างสะพาน เกิดขึ้นบ่อยหลายครั้ง และทิ้งท้ายว่า “ขออย่าให้เกิดที่ใด กับใครอีกเลยครับ เป็นห่วงจริงๆ”

จนถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานหนักเพื่อกู้ซากคานสะพานพังถล่ม โดยล่าสุด ดร.เอ้ โพสต์อีกครั้ง เพื่อแสดงความเสียใจอย่างมาก เนื่องจากตนเองเคยเตือนหลายครั้งแล้วว่าการทำงานก่อสร้างสะพาน ต้องทำงานตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เคร่งครัด และต้องระมัดระวังตลอดเวลา ดีกว่ามาแก้ไขทีหลัง และหลายอย่างสูญเสียแล้วทดแทนคืนไม่ได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย