รัฐสภา 4 ก.ค.- “พิธา” ควง “ปดิพัทธ์” แถลงหลังนั่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ชี้สะท้อนเอกภาพพรรคร่วมฯ เชื่อได้เป็นนายกฯ แน่ พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องชาติ-ประชาชน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะว่าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แถลงข่าวร่วมกัน ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติให้ความเห็นชอบนายปดิพัทธ์ ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 โดยนายพิธา กล่าวว่า ผลการลงมติของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่มอบให้นายปดิพัทธ์ 312 เสียงนั้น สะท้อนเอกภาพของพรรคร่วมฯ ที่สามารถรวบรวมเสียงได้ ไม่ให้แตกแถว และมีเอกภาพในการลงมติ 100% มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แม้จะมีการเสนอชื่อแข่งจากพรรครวมไทยสร้างชาติก็ตาม จึงถือเป็นทิศทางที่ดี ไม่มีปัญหาในความสัมพันธ์ของพรรคร่วมฯ ที่สามารถผลักดันข้อตกลงต่าง ๆ สู่การจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จได้ต่อไป
“มั่นใจว่าผลการลงมติเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ผมจะประสบความสำเร็จในการเป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีความกังวลใด ๆ และลึก ๆ ในใจจะตั้งใจทำงาน เร่งตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ส่วนพรรคร่วมฯ 8 พรรค จะมีปัญหาใดอีกหรือไม่ เรื่องดังกล่าวไม่ได้อยู่ในใจผม” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว
นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกล รองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน ได้พูดคุยกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ในฐานะว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ที่จะช่วยกันผลักดันกฎหมายต่าง ๆ ทั้งกฎหมายสุราก้าวหน้า สมรสเท่าเทียม รวมถึงกฎหมายสำคัญอื่น ๆ ซึ่งรวมไปถึงการนิรโทษกรรมด้วย
“พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานไว้ในคราวเสด็จพระราชดำเนินเปิดประชุมรัฐสภา เมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) โดยเฉพาะเรื่องชาติและประชาชน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว
ส่วนกรณีถูกร้องเรียนที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพิธา มั่นใจว่าชี้แจงได้ทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยื่นไปทั้งก่อนเข้าดำรงตำแหน่ง ส.ส. และหลังพ้นตำแหน่ง ส.ส.แล้ว และเตรียมที่จะยื่นอีกครั้งหลังเข้าดำรงตำแหน่ง ส.ส.ครั้งนี้
ส่วนข้อตกลงระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ดำเนินนโยบายนิรโทษกรรม หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เป็นข้อตกลงระหว่าง 2 พรรคการเมือง ซึ่งพรรคก้าวไกลเตรียมร่างพระราชบัญญัติฯ ไว้แล้ว โดยต้องผ่านกระบวนการพิจารณาในสภาฯ ตั้งกรรมาธิการฯ อภิปรายกันในสภาฯ ต่อไป
นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นที่หนักใจของประชาชน แต่ทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดี และแม้เสนอชื่อนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ แข่งขัน แต่สุดท้ายตนก็ได้รับความไว้วางใจจากสภาฯ ให้ทำหน้าที่ ยืนยันว่า คณะทำงานจะทำงานร่วมกัน ผลักดันภารกิจของสภาฯ ให้ก้าวหน้า โดยจะผสมผสานประสบการณ์ความรู้ ความตั้งใจใหม่ ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อทำให้สภาฯ ก้าวหน้าต่อไป ประชาชนเข้ามาใช้งาน และเป็นส่วนหนึ่งของสภาฯ ไทยได้
“เมื่อได้รับความไว้วางใจจากสภาฯ แล้ว ผมได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลแล้ว โดยจะเริ่มทำงานอย่างเป็นกลางตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมื่อขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ เสร็จสิ้น จะเร่งฟอร์มคณะทำงานเพื่อทำงานโดยเร็ว โดยเฉพาะการปรับปรุงกระบวนการพิจารณากฎหมายให้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ” นายปดิพัทธ์ กล่าว
ส่วนผลสรุปการเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ที่ผ่านมา ถือเป็นการยอมของพรรคก้าวไกลให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ใครยอมใคร แต่เกิดจากการเจรจาอย่างดีที่สุด โดยยึดเป้าหมายและนโยบายเป็นตัวตั้งเช่นเดียวกับการฟอร์มรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย