กรุงเทพฯ 23 มิ.ย. – แพทย์เผยผลชันสูตรศพนักเรียนชายวัย 18 ปี พบร่องรอยบาดแผลฉีกขาดที่กระดูกต้นแขน แผลฉีกขาดขนาดใหญ่ที่หน้าอก อวัยวะภายในทรวงอกฉีกขาด เป็นสาเหตุให้เสียชีวิต
ผศ.นพ.จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล เปิดเผยอาการนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุถังดับเพลิงระเบิดที่โรงเรียนราชวินิต มัธยม ว่า โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ได้รับผู้บาดเจ็บ 5 ราย ซึ่งเดินทางมาที่โรงพยาบาล ช่วงเวลา 12.06 น. ผู้บาดเจ็บรายที่ 1 เป็นนักเรียนชายอายุ 16 ปี มาด้วยอาการปวดไหล่ขวา, ผู้บาดเจ็บรายที่ 2 เป็นนักเรียนชายอายุ 17 ปี มาด้วยอาการเจ็บฝ่ามือขวา และถลอกหน้าแข้งขวา, ผู้บาดเจ็บรายที่ 3 นักเรียนชายอายุ 18 ปี มาด้วยอาการปวดหู, ผู้บาดเจ็บรายที่ 4 เป็นนักเรียนหญิงอายุ 13 ปี มาด้วยอาการปวดศีรษะ เจ็บคอร้าวไปที่แขนซ้าย และผู้บาดเจ็บรายที่ 5 เป็นนักเรียนหญิงอายุ 13 ปี มาด้วยอาการปวดหู
ขณะนี้ผู้บาดเจ็บทั้ง 5 ราย ได้รับการดูแลรักษาจากโรงพยาบาลวชิรพยาบาล อาการบาดเจ็บไม่รุนแรง และจะไม่ส่งผลให้มีอาการหูดับในอนาคต แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้มีอาการคงที่ ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด โดยจำเป็นจะต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันได้มีการพูดคุยกับทางผู้บาดเจ็บ บางส่วนเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต ก็ยังคงมีอาการตกใจ ทางทีมแพทย์ได้ส่งจิตแพทย์เข้าไปพูดคุยและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ส่วนค่ารักษาพยาบาล ทางโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ได้ดูแลในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด
ส่วนผู้เสียชีวิต เป็นนักเรียนชายอายุ 18 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยแพทย์นิติเวชได้ผ่าชันสูตรศพเบื้องต้นพบว่า มีร่องรอยบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณกระดูกต้นแขน และมีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่บริเวณหน้าอก พร้อมกับมีอวัยวะภายในทรวงอกฉีกขาด ซึ่งระบุเป็นสาเหตุให้ถึงแก่ชีวิต
ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เดินทางมายังโรงพยาบาลวชิรพยาบาล พร้อมเปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 21 คน กลับบ้านไปแล้ว 12 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 9 คน แบ่งเป็น อยู่ที่ รพ.กลาง 4 คน รพ.วชิรพยาบาล 5 คน โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดอยู่ในโซนสีเขียว ไม่มีอาการสาหัส มีเพียงแค่หูอื้อเท่านั้น แต่ยังไม่ถึงขั้นแก้วหูอักเสบ และบาดเจ็บที่ข้อมือเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นอกจากนี้ยังได้ส่งทีมนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลสภาพจิตใจเด็กๆ เพราะหลายคนยังตกใจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิดกับเหตุการณ์
ส่วนถังดับเพลิงที่เกิดเหตุ เบื้องต้นตนเองได้เช็กข้อมูลและพูดคุยกับทาง ปภ. ซึ่งได้รับรายงานว่า ตามระเบียบการดูแลรักษา หากตามมาตรฐานจะมีการตรวจทุก 5 ปี ซึ่งการตรวจจะเป็นการฉีดแรงดันน้ำเข้าไปเพื่อตรวจสอบ แต่สำหรับชุดถังดับเพลิงที่นำมาสาธิตนี้จะต้องไปตรวจสอบประวัติว่าได้มาตรฐาน และมีการตรวจสอบตามขั้นตอนหรือไม่. -สำนักข่าวไทย