กกต. 19 มิ.ย.-กกต. ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส. 500 คน หลังสอบทุจริตไม่เสร็จภายใน 60 วัน
นายแสวง บุญมี เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แถลงผลการประชุม กกต. ว่า สำนักงาน กกต.ได้เสนอผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขต 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน และผลการตรวจสอบรายงานจากความเห็นของผู้ตรวจการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด รายงานการตรวจสอบสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ได้รับเลือกตั้ง และตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร และแหล่งข้อมูลจากการตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ของกลุ่มภารกิจงานสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ทั้งนี้เมื่อ กกต.ได้พิจารณาแล้ว จึงมีมติให้ประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อครบทั้ง 100 คน
นายแสวง กล่าวว่า กระบวนการหลังจากนี้ กกต.ยังมีอำนาจพิจารณาการสืบสวนไต่สวน ตามมาตรา 138 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 หมายความว่า หลังการเลือกตั้งหากมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริต กกต.จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง ทั้งนี้การที่ กกต.ประกาศรับรองผลไปก่อน เนื่องจากกระบวนการสืบสวนสอบสวนผู้ถูกร้องเรียน อาจดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และเห็นว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งขณะนี้มีการอ้างพยานหลักฐานเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยในจำนวน ส.ส. 400 เขต พบว่ามีผู้ไม่มีเรื่องร้องคัดค้าน 318 คน ถูกร้องคัดค้าน 82 คน อย่างไรก็ตาม ส.ส.ที่กกต.ประกาศรับรองสามารถมารับหนังสือรับรองได้ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน – 24 มิถุนายน เวลา 08.30- 16.30 น.ไม่เว้นวันหยุดราชการ
นายแสวง กล่าวว่า ส่วนจำนวนคะแนนเสียงที่เป็นคะแนนดีนำมาคำนวณ ส.สแบบบัญชีรายชื่อมีทั้งสิ้น 31,522,698 คะแนน โดยสัดส่วนคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน คือ 375,226 คะแนน เมื่อคำนวณแล้วมีจำนวน 17 พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งประกอบด้วย 1.พรรคก้าวไกล 39 คน 2.พรรคเพื่อไทย 29 คน 3.พรรครวมไทยสร้างชาติ 13 คน 4.พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน 5.พรรคภูมิใจไทย 3 คน 6.พรรคประชาชาติ 2 คน ส่วนพรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคท้องที่ไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคเป็นธรรม พรรคพลังประชารัฐ พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคเสรีรวมไทย และพรรคใหม่ ได้พรรคละ 1 คน
ทั้งนี้ หลังประกาศรับรองแล้ว กกต.จะดำเนินการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัตินายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกของพรรคก้าวไกล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เลยหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาของสำนักงานฯ ต้องดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และดูว่ามีการดำเนินการไปแล้วมากน้อยแค่ไหน ซึ่งขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ
เมื่อถามย้ำว่า จะต้องยื่นเรื่องก่อนจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า กกต. ไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง การสอบสวนของ กกต. จะต้องสอบสวนให้สิ้นกระแสความ ถ้าเร็วก็เร็วโดยลักษณะงานที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง.-สำนักข่าวไทย