ศูนย์ซ่อมบำรุงฯ 19 มิ.ย.-นายกฯ ทดสอบเดินรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว -สำโรงเสมือนจริง ขอบคุณทุกภาคส่วนและปชช.ที่ช่วยกันจนสำเร็จ หวังช่วยลดความหนาแน่นทางถนน มีแผนเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าใยแมงมุม ใช้บัตรตั๋วร่วมลดค่าใช้จ่าย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) ตลอดสายอย่างเป็นทางการโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ณ ศูนย์ซ่อมบำรุง – สถานีลาดพร้าว – สถานีศรีเอี่ยม พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ
ภายหลังเยี่ยมชมนิทรรศการ นายกรัฐมนตรีสอบถามถึงแหล่งผลิตของรถไฟฟ้าและความคืบหน้าเรื่องบัตรโดยสาร โดยเฉพาะบัตรตั๋วร่วมซึ่งจะใช้เป็นบัตร BDM ซึ่งจะช่วยเรื่องบัตรค่าแรกเข้า เพราะหากทำให้เกิดการเชื่อมโยงต่อกันของรถไฟฟ้าเส้นทางต่าง ๆ จะไม่มีค่าแรกเข้า
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากการจราจรหนาแน่นจะเสนอเดินรถระยะสั้นตามความจำเป็น ส่วนสถานที่จอดรถมีความเรียบร้อยดี รองรับพื้นที่การจอดรถกว่า 2,800 คัน รัฐบาลมีนโยบายให้มีที่จอดรถ ทั้งปลายทางและต้นทาง ส่วนอัตราค่าจอดรถที่อยู่ที่ 2 ชั่วโมงแรก 10 บาทถือว่าทำให้ประชาชนมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในการเดินทาง ไม่เช่นนั้นการสัญจรเส้นทางข้างล่างจะหนาแน่นแออัดไปหมด
“การจะทำให้สำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะใช้สถานที่หลายร้อยไร่ ซึ่งต้องขอบคุณประชาชนด้วยที่ร่วมมือ ทำให้รัฐบาลดำเนินการได้ เพราะนี่คือพ.ร.บ. ร่วมทุนฯ ที่เราทำ” นายกรัฐมนตรี กล่าวพร้อมกับหันไปพูดกับนายคีรี กาจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ว่า “ให้หันมานี่ จะหันไปไหน” ก่อนกล่าวต่อว่า ได้ประเมินถึงรายได้ไว้แล้วใช่หรือไม่ ว่าสูงหรือต่ำกว่าเดิมจากการประมาณการ ค่อยว่ากันอีกที ซึ่งเป็นสัมปทาน 30 ปี ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมว่าอาคารมีความใหญ่โตมโหฬาร และสอบถามถึงระบบของการเดินรถในระบบล้อยาง และเปรียบเทียบกับต่างประเทศที่ใช้ระบบแม่เหล็กซึ่งใช้กำลังไฟฟ้าจำนวนมากและค่าไฟจะแพงมาก
นายกรัฐมนตรี ให้ความสนใจสอบถามถึงจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยปลายทางจะเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว พร้อมกับกล่าวว่า เป็ฯการดำเนินงานของรัฐบาลผ่านการวางแผนโดยการสร้างเครือข่าย ไม่ใช่เส้นใดเส้นหนึ่ง หากพิจารณาตามรูปจะเห็นว่าเราทำอย่างเต็มที่ โดยทยอยสร้างไป อันไหนทำได้ก็ทำก่อน วันนี้ยินดีที่ได้มาร่วมเปิดโครงการ ขอให้ช่วยกันทำให้ประเทศมีการจราจรที่ดีขึ้น แก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 คือสิ่งที่จะสานต่อไปเรื่อย ๆ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลจะต้องคิดแบบนี้ ขอบคุณทุกคน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อสักครู่เห็นใครไม่รู้ วิ่งมารับนายกฯ ไม่ทัน วิ่งมาจากข้างล่าง 4 คน ตรงสะพานข้างนอก แข็งแรงจริง ๆ ขอชมเชย ผู้หญิง 3 คนผู้ชาย 1 คน วิ่งขึ้นสะพานมารอรับนายกฯ ไม่รู้ว่าทันหรือเปล่า จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ถ่ายรูปร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและขึ้นรถไฟฟ้าเดินทางต่อไปยังสถานีลาดพร้าว
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริงที่สถานีลาดพร้าว ว่า มาร่วมทดสอบการเดินรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งจากการที่ได้ทดลองนั่งรู้สึกสบายดี และถือเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในเส้นทางสายนี้ ต้องขอขอบคุณทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงคมนาคม การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกระทรวงมหาดไทย ผู้ที่เกี่ยวข้องในการก่อสร้างทั้งหมด เพราะเกี่ยวกับหลายส่วน ทั้งสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆที่ประชาชนให้เวนคืนมาทำ
“ถือเป็นความร่วมมือตามกฏหมาย และยินดีที่เปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบในเวลานี้ ขอให้ทุกคนปลอดภัยในการใช้บริการรถไฟฟ้า และวันหน้าเราได้วางแผนเรื่องการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าในลักษณะใยแมงมุม รวมถึงการพิจารณาใช้ตั๋วร่วมตลอดการเดินทาง เพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชนให้ลดลงได้บ้าง ส่วนค่าตั๋วเริ่มที่ 15 บาท แพงสุด 45 บาท ซึ่งเราจะต้องพูดคุยต่อเรื่องค่าแรกเข้าต่าง ๆอีก ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ สำหรับอาคารจอดรถกว้างขวาง แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเพียงพอหรือไม่ ตรงนี้อาจจะพอ แต่บางครั้งประชาชนผู้ใช้บริการระยะทางสั้นอาจมาจอดรถ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร วันหน้าให้รัฐบาลหน้ามาทำต่ออีกหลายเรื่อง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่าจะต้องนำเรื่องการใช้ตั๋วร่วมเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องนำเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม. โดยกระทรวงคมนาคมรายงานมาแล้ว รวมทั้งเรื่องเก็บค่าโดยสารที่จะเริ่มต้นวันที่ 3 ก.ค.นี้ต้องให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาอนุมัติเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ ประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองมาดักรอให้กำลังใจ โดยได้ตะโกนส่งเสียงว่า “นายกฯ สู้ๆ ,ลุงตู่อยู่ต่อ, ให้กำลังใจนายกฯ”
สำหรับรถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลืองเต็มโครงการ เป็นการเดินรถระบบราง เชื่อมเส้นทางลาดพร้าว ศรีนครินทร์ สำโรง เป็นหนึ่งในโครงการรถไฟฟ้าตามแผนแม่บทพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายหลักและสายรอง ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล หรือ M-MAP โดยทางวิ่งเป็นการยกระดับตลอดเส้นทาง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร จำนวน 23 สถานี ตั้งแต่ที่บริเวณแยกรัชดา – ลาดพร้าว ตามแนวเส้นทางวิ่งตามถนนลาดพร้าว จนถึงแยกบางกะปิ จากนั้นเบี่ยงแนวไปทางทิศใต้ตามถนนศรีนครินทร์จนถึงแยกเทพาเลี้ยวเข้าถนนเทพารักษ์และสิ้นสุดที่บริเวณแยกสำโรง
รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเป็นระบบรางเดี่ยวแบบร่องรางไร้ขนขับใช้ล้อยางวิ่งบนคานคอนกรีต ความยาวขบวน 4 ตู้ต่อขบวนสามารถเพิ่มตู้ได้สูงสุด 7 ตู้ต่อขบวน จึงรองรับผู้โดยสาร 17,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงคมนาคมโดยการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 และได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ บริษัท อีสเทิร์น บางกอก โมเดลจำกัด หรือ EBM ผู้รับสัมปทาน เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2560 งบประมาณก่อสร้าง 48,125 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่นายกรัฐมนตรีโดยสารวันนี้ หมายเลข 126 โดยนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ และรับชมวีดิทัศน์ความเป็นมาของโครงการ ซึ่งตลอดเส้นทางรถได้จอดรับประชาชนร่วมขบวนเป็นระยะก่อนจะถึงสถานีปลายทางคือสถานีลาดพร้าวในเวลา 12.04 น.-สำนักข่าวไทย